วันที่ 5 เมษายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. … ลดอัตราเงินสมทบ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565
กรณี ม.33 นายจ้างและลูกจ้าง จ่ายเงินสมทบกองทุนฯ เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 จากเดิมร้อยละ 5
กรณี ม.39 จากเดิมร้อยละ 9 ของฐานค่าจ้าง 4,800 บาท (เดือนละ 432 บาท) ให้เหลือร้อยละ 1.9 หรือ เดือนละ 91 บาท
การลดอัตราเงินสมทบ 3 งวดนี้ ส่งผลให้กองทุนประกันสังคมจัดเก็บเงินสมทบได้ลดลง 34,023 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบลดลงเป็นเงิน 18,085 ล้านบาท และนายจ้างจ่ายเงินลดลงเป็น 15,938 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ประกันตน ทำให้สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่าย เสริมสภาพคล่องได้ประมาณ 1,000 – 1,800 บาทต่อคน ขณะเดียวกันนายจ้างก็มีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้กลไกของกองทุนประกันสังคม เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้ประกันตนและต้นทุนการผลิตให้แก่นายจ้างในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปเท่านั้น
ที่มา : สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี