หลังจากอีลอนมัสก์ (Elon Musk) ซื้อทวิตเตอร์ มูลค่า 44,000 ล้านเหรียญเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ล่าสุดประกาศซื้อโคคา-โคล่า เครื่องดื่มสุดฮิต พร้อมสัญญาจะนำโคเคนกลับมาเป็นส่วนผสมอีกครั้ง
ย้อนกลับไปเมื่อ 137 ปีที่แล้ว เครื่องดื่มโคคา-โคล่าถูกคิดค้นโดยจอห์น เพมเบอร์ตัน เภสัชกรจากแอตแลนต้า ในปีพ.ศ. 2428 ซึ่งเป็นผู้คิดค้นสูตรดั้งเดิมที่สวนหลังบ้านของเขา สูตรของจอห์น เพมเบอร์ตัน บรรจุโคเคนในรูปแบบของสารสกัดจากใบโคคา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ส่วน “โคคา” ของชื่อเครื่องดื่ม “โคล่า” มาจากถั่วโคล่า (ซึ่งมีคาเฟอีนซึ่งเป็นสารกระตุ้นอีกชนิดหนึ่ง)
เมื่อโคคา-โคลาถูกผลิตขึ้น ในยุคนั้นโคเคนเป็นสิ่งถูกกฎหมายและใช้เป็นส่วนผสมในยาหลายชนิด ทำให้ผู้คนคิดว่าน่าจะมีความปลอดภัยหากใช้ในปริมาณเล็กน้อย จอห์น เพมเบอร์ตันอธิบายว่าเครื่องดื่มดังกล่าวเป็น “เครื่องดื่มบำรุงสมองและเครื่องดื่มทางปัญญา” และมีการโฆษณาว่าเป็น “ยาที่จดสิทธิบัตร” (Patent Medicine) หรือยารักษาโรคครอบจักรวาล เขาอ้างว่ามันรักษาอาการปวดหัว ปวดท้อง และเมื่อยล้า
ยานี้มีส่วนผสมที่แปลกใหม่ และสารประกอบของยาซึ่งรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลากหลาย ตามที่คนที่ทำขึ้นเอง แต่ผู้คนก็จะรู้อยู่แล้วว่าสามารถเสพติดได้เพราะมีส่วนผสมของสารเสพติด และในศตวรรษที่ 19 ยาที่จดสิทธิบัตรไม่ได้ถูกควบคุมเหมือนยาที่ใช้รักษาเหมือนปัจจุบัน ทำให้ใคร ๆ ก็อ้างว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยไม่ต้องพิสูจน์ประสิทธิภาพ หรือเปิดเผยความเสี่ยง
ในปี 1891 ชาวอเมริกันบางคนคัดค้านการรวมส่วนผสมเสพติดในยาที่มีในยาจดสิทธิบัตร ผู้ผลิตได้ปรับปรุงสูตรยาและผลที่ตามมาคือข้อเรียกร้องด้านสุขภาพ จึงค่อย ๆ ลดปริมาณโคเคนในโคคา-โคลาลง และในที่สุดก็ถูกนำออกจากเครื่องดื่มในปี 1929 ซึ่งเป็นช่วงยุคห้ามในสหรัฐอเมริกาที่แอลกอฮอล์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และในไม่ช้าโคคา-โคล่าก็กลายเป็นที่นิยมในฐานะเครื่องดื่ม “น้ำอัดลม” ซึ่งเป็นทางเลือกแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส