วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประกาศใช้กฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกัน (Defense Production Act) เพื่อสั่งผลิตนมผงเพิ่ม หวังลดปัญหานมผงขาดแคลนทั่วประเทศ หลัง แอ๊บบอต นิวทริชั่น (Abbott Nutrition) ผู้ผลิตนมผงรายใหญ่ของสหรัฐฯ สั่งปิดโรงงานหลักในรัฐมิชิแกน หลังพบแบคทีเรียปนเปื้อนในนมผง

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะกำหนดให้ซัปพลายเออร์ต้องส่งส่วนผสมต่าง ๆ ไปยังผู้ผลิตนมผงก่อนส่งให้บริษัทอื่น ๆ ที่อาจสั่งซื้อส่วนผสมเหล่านั้น อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าซัปพลายเออร์รายใหญ่รายใดที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว

ทั้งนี้ กฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกันจะทำให้ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มีอำนาจกำหนดให้บริษัทต่าง ๆ ต้องผลิตและจัดสรรสินค้าหนึ่ง ๆ ตามที่ประธานาธิบดีเห็นว่าสำคัญต่อการแก้ไขวิกฤต โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายดังกล่าวในปี 2493 ในช่วงสงครามเกาหลี

นอกจากนี้ นายโจ ไบเดน ยังสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินจากกระทรวงกลาโหมไปรับนมผงจากต่างประเทศที่ตรงตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของสหรัฐฯ เพื่อนำเข้านมผงเพิ่มเติมอีกด้วย

เหตุการณ์นมผงในสหรัฐฯ ขาดตลาด เริ่มต้นมาจากแอ๊บบอต นิวทริชั่น สั่งปิดโรงงานในเมืองสเตอร์กิส รัฐมิชิแกน เนื่องจากพบแบคทีเรียปนเปื้อนในนมผง โดยแอ๊บบอตได้สั่งเรียกคืนนมผงที่ผลิตในโรงงานดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่าทารก 4 ราย บริโภคนมผงดังกล่าวติดเชื้อแบคทีเรียจนล้มป่วย และในจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตไป 2 ราย

ทั้งนี้ นมผงในสหรัฐฯ ที่ผลิตได้เองภายในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 98% ของตลาด โดยมีผู้ผลิตใหญ่ 4 ราย คือ แอ๊บบอต (Abbott), มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (Mead Johnson Nutrition), เนสท์เล่ (Nestle USA) และ เพอร์ริโก (Perrigo) ดังนั้น การหายไปของ 1 ใน 4 ผู้ผลิตรายใหญ่ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่มา : CNBC, Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส