สแตนดาร์ดแอนพัวร์ส (Standard & Poors: S&P) บริษัททางด้านการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ประกาศถอดชื่อเทสลา (Tesla) ออกจากการจัดอันดับบริษัทที่มีการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกว่า S&P 500’s ESG (ESG: Environmental, social, and corporate governance) ซึ่งเพิ่งมีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยการถอดชื่อเทสลาออกจากการจัดอันดับดังกล่าวนั้น บนหน้าเว็บบล็อกของสแตนดาร์ดแอนพัวร์สได้มีการอธิบายไว้ และได้ระบุสาเหตุส่วนหนึ่งที่ต้องถอดชื่อของเทสลาออกไปในครั้งนี้ว่า “ขาดกลยุทธ์คาร์บอนต่ำ (Lack of a low-carbon strategy)” และ “หลักจรรยาบรรณทางธุรกิจ (Codes of business conduct)” รวมไปถึงได้รับรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นภายในโรงงานของเทสลาในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย คือมีการเหยียดผิว, เชื้อชาติ และเลือกปฏิบัติกับพนักงานบางราย (Racial discrimination, Racism) และสภาพการทำงานที่แสนย่ำแย่ (Poor working conditions)
นอกเหนือจากการขาดกลยุทธ์และจรรยาบรรณที่กล่าวมา รวมไปถึงปัญหาที่ก่อเกิดภายในโรงงานที่เมืองฟรีมอนต์ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เทสลาหลุดออกจากการจัดอันดับนั้น มาจากการที่ระยะหลัง ๆ เกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ของเทสลาหลายต่อหลายครั้ง โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น มาจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (Autopilot) จนทำให้หน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทางด้านจราจรบนนถนนทางหลวง หรือ National Highway Transportation Safety Administration (คล้าย ๆ ตำรวจทางหลวงในบ้านเรานั่นแหละ…) ต้องเรียกสืบสวนหลายต่อหลายรอบ และทำให้มีผลต่อคะแนนความเชื่อมั่นด้วยเช่นกัน
ก่อนที่เทสลาจะถูกถอดออกจากการจัดอันดับบริษัทที่มีการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาล เทสลาถูกจัดอันดับไว้ในอันดับที่ 4 ของหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุด เป็นรองลงมาจากแอปเปิ้ล (Apple) ในอันดับที่ 1, ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในอันดับที่ 2 และ แอมะซอน (Amazon) ในอันดับที่ 3
แน่นอนว่าการที่เทสลาถูกถอดชื่อในครั้งนี้ เป็นการทำให้ซีอีโอคนสำคัญของเทสลา อย่าง ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) ออกอาการยัวะจัด ถึงขั้นต้องออกมากล่าวผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ (Twitter) ของตัวเขาเอง (@elonmusk) โดยได้ทวีตว่า “เอ็กซอน (Exxon, ExxonMobil) ได้ติดอันดับท็อปเท็น ในขณะที่เทสลาไม่ได้ถูกจัดอันดับ! การจัดอันดับเป็นสิ่งที่หลอกลวง มันคือความยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมที่แสนจอมปลอม” พร้อมทั้งมีการแท็กไปยังสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์สและกล่าวเพิ่มอีกว่า “สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์สได้ไร้ซึ่งความซื่อตรง”
เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil) บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของตาราง โดยหลังจากที่เทสลาไม่ได้ติดอันดับนั้น เอ็กซอนได้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 9 จากการจัดอันดับในครั้งก่อนหน้านี้ ที่อยู่ในอันดับที่ 10 ของตาราง ส่วนอันดับที่ 4 ที่เทสลาได้อยู่ก่อนหน้านี้ ได้ตกเป็นของอัลฟาเบ็ต อิงค์ คลาสเอ หรือที่คุ้นกันในชื่อของกูเกิล (Alphabet Inc Class A: Google)
แม้สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์สถูกกล่าวพาดพิงในเช่นนี้ แต่กลับไม่มีการโต้แย้งหรือคำอธิบายใด ๆ เป็นการโต้ตอบกลับมา ในทางกลับกัน ทางด้านของเทสลาเองได้ออกมาอธิบายในเชิงโต้แย้งกับการจัดอันดับในครั้งนี้ว่า “ค่ายรถค่ายอื่น ๆ ต่างถูกจัดอันดับในระดับที่สูงขึ้น ถึงแม้ค่ายรถเหล่านั้นแทบไม่ได้ลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงมาเลย และยังคงเดินหน้าสายงานการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาบจากภายในต่อไป”
ไม่ได้มีแค่เทสลาเพียงรายเดียวที่มีรายชื่อหลุดออกจากการจัดอันดับดังกล่าวนั้น ยังมีอีกหลายแบรนด์ หลายบริษัท ที่หลุดจากการจัดอันดับที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน อาทิ เชฟรอน (Chevron) บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม, สายการบินเดลตา (Delta Air Lines), แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับนักออกกำลังกายชื่อดัง อันเดอร์อาร์เมอร์ (Under Armour) และอีกหลายบริษัท รวม 35 รายชื่อ ในขณะที่ทวิตเตอร์ (Twitter), โมเดอร์นา (Moderna), เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป (Expedia Group) บริษัทแม่ของเว็บไซต์จองการเดินทางและโรงแรมหลากหลายเว็บ รวมไปถึงอีกหลายบริษัท รวม 36 รายชื่อ ได้ถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในการจัดอันดับบริษัทที่มีการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาล ของสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส
ที่มา: CNN, CNBC, Reuters, S&P (Standard & Poors), The New York Times, Tesla
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส