สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายรานิล วิกรมสิงเห (Ranil Wickremesinghe) นายกรัฐมนตรีของศรีลังกา เปิดเผยว่า ประเทศต้องการเงินอีก 5,000 ล้านเหรียญ (ราว 172,500 ล้านบาท) สำหรับค่าใช้จ่ายในช่วง 6 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อชำระค่าสินค้าที่จำเป็น หลังศรีลังกากำลังตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี
นายกรัฐมนตรีของศรีลังการะบุว่า เงินจำนวน 5,000 ล้านเหรียญนี้ จะถูกใช้เพื่อชำระค่าสินค้าที่จำเป็น ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง 3,300 ล้านเหรียญ (ราว 113,860 ล้านบาท), อาหาร 900 ล้านเหรียญ (ราว 31,000 ล้านบาท), ก๊าซหุงต้ม 250 ล้านเหรียญ (ราว 8,600 ล้านบาท) และปุ๋ยจำนวน 600 ล้านเหรียญ (ราว 20,700 ล้านบาท)
ธนาคารกลางของศรีลังกาประเมินว่า เศรษฐกิจของประเทศจะถดถอยลงถึง 3.5% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางกับนายวิกรมสิงเหที่ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจศรีลังกาจะกลับมาเติบโตได้ด้วยแผนการปฏิรูปที่แข็งแกร่ง การปรับโครงสร้างหนี้ และการสนับสนุนจากนานาชาติ
นายวิกรมสิงเหระบุว่า รัฐบาลกำลังเจรจาขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ราว 3,000 ล้านเหรียญ (ราว 103,500 ล้านบาท) ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมจากการขอความช่วยเหลือจีน อินเดีย และญี่ปุ่น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของศรีลังกายังเปิดเผยอีกว่า เขาจะปรับลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลง เพื่อเพิ่มเติมงบประมาณส่วนสวัสดิการจาก 350 ล้านเหรียญ เป็น 500 ล้านเหรียญ (จาก 12,000 ล้านบาท เป็น 17,200 ล้านบาท)
ที่มา: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส