23 มิถุนายน 265 เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แพลตฟอร์มบริการสตรีมมิงยักษ์ใหญ่จำเป็นต้องปลดพนักงานเพิ่มอีก 300 คน หลังจากเคยได้ปลดพนักงานไปแล้ว 150 คนเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากบริษัทสูญเสียสมาชิกจำนวนมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ทำธุรกิจมา และมีรายได้ลดลงมหาศาล
ทางเน็ตฟลิกซ์กล่าวในแถลงการณ์ว่าการปลดพนักงานครั้งนี้นี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เพื่อลดต้นทุนการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงและการเติบโตที่ช้ากว่าเดิม โดยที่เน็ตฟลิกซ์รู้สึกขอบคุณพนักงานทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อบริษัทตลอดมา
สเปนเซอร์ นอยมันน์ (Spencer Neumann) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทกล่าวให้กับนักลงทุนในระหว่างการสรุปรายได้ในเดือนเมษายนว่าเน็ตฟลิกซ์จะระมัดระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้นและมองดูธุรกิจตามความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็ยังคงมีแผนที่จะลงทุนอย่างหนัก โดยเฉพาะการการซื้อเนื้อหาเพิ่มประมาณ 17,000 ล้านเหรียญ (ราว 600,000 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ประธานบริหารร่วม (Co-CEO) อย่าง รีด แฮสติงส์ (Reed Hastings) ยังกล่าวว่าทางบริษัทกำลังพิจารณาแพ็กเกจราคาถูกที่มีโฆษณาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานเข้ามาเพิ่ม หลังจากที่เน็ตฟลิกซ์เคยมีนโยบายต่อต้านการโฆษณาบนแพลตฟอร์มมาอย่างยาวนาน
ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้เน็ตฟลิกซ์เสียรายได้มหาศาลคือการที่ผู้ใช้แชร์รหัสผ่านนอกครัวเรือน โดยทางบริษัทกล่าวว่าจากประมาณ 222 ล้านครัวเรือนที่ชำระค่าบริการ มีอีกกว่า 100 ล้านครัวเรือนที่ใช้บริการเน็ตฟลิกซ์ผ่านการแชร์รหัสผ่านและใช้บัญชีร่วมกัน
อ่านต่อ : นโยบายเก็บเงินเพิ่มของ Netflix กรณีแชร์บัญชีข้ามบ้านคือความวินาศ!
ที่มา: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส