ธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) กล่าวว่าความต้องการที่จะเทขายของนักขุดบิตคอยน์ อาจกดราคาเหรียญไม่ให้ขยับเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเดือน

จากรายงานของนักยุทธศาสตร์ในเจพีมอร์แกน นำโดย นิโคลาออส ปานิจิร์โซกลู (Nikolaos Panigirtzoglou ) กล่าวว่านักขุดบิตคอยน์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนับเป็นประมาณ 20% ของทั้งหมด รายงานว่าพวกเขาได้ขายบิตคอยน์ไปในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนเพื่อคงสภาพคล่องและรักษาต้นทุนเอาไว้ ส่วนนักขุดเอกชนก็มีความเป็นไปได้ว่าได้ขายส่วนแบ่งขนาดใหญ่จากที่ขุดได้ เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุน และลงทุนเพิ่มน้อยลงเนื่องจากเข้าถึงตลาดทุนได้ยากขึ้น

โดยทางเจพีมอร์แกนกล่าวว่า การเทขายเพื่อรักษาต้นทุนของนักขุดบิตคอยน์ อาจดำเนินต่อไปถึงไตรมาสที่ 3 ถ้าสัดส่วนกำไรของพวกเขาไม่เพิ่มมากขึ้น การขายเหล่านี้ได้กดราคาในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าแรงกดนี้จะยังคงมีดำเนินต่อไป

สิ่งหนึ่งที่อาจบรรเทาแรงกดราคานี้ลงได้คือการลดลงของต้นทุนการขุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ จากตอนต้นปีที่ต้นทุนประมาณ 18,000 – 20,000 เหรียญ (ราว 630,000 – 700,000 บาท) ต่อหนึ่งบิตคอยน์ มาอยู่ที่ราว 15,000 เหรียญ (ราว 520,000 บาท) ต่อหนึ่งบิตคอยน์ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากประสิทธิภาพของเครื่องขุดที่มากขึ้น ทำให้นักขุดยังพอรักษาผลกำไรไว้ได้

ซึ่งต้นทุนของแต่ละเหมืองขุดก็อาจต่างกันไป ทางนักวิเคราะห์มองว่าเหมืองขุดขนาดใหญ่อาจมีต้นทุนต่ำถึงประมาณ 8,000 เหรียญ (ราว 280,000 บาท) ต่อหนึ่งบิตคอยน์ ในขณะที่บางคนมองว่าเมื่อรวมต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและอัตราดอกเบี้ยแล้ว ผู้ขุดบางรายอาจมีต้นทุนสูงกว่า 20,000 เหรียญแล้ว (ราว 700,000 บาท)

ปัจจุบันวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ราว 21,000 เหรียญ (ราว 740,000 บาท)

ที่มา: Bloomberg

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส