วันสำเร็จการศึกษาคือช่วงเวลาที่สุดพิเศษของบรรดานักเรียนทุกคน ซึ่งวันเวลาเช่นนี้ย่อมเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสุข และบันทึกเป็นความทรงจำดี ๆ ในชีวิต และเป็นก้าวสำคัญที่น่าตื่นเต้นที่จะก้าวต่อไปในอนาคต แต่ในวันนี้ช่วงเวลาสุดพิเศษแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับบรรดานักเรียนนักศึกษาชาวยูเครน เพราะบ้านเรือนของพวกเขาอยู่ท่ามกลางภาวะสงคราม จากการรุกรานของรัสเซียมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ช่างภาพคนหนึ่งก็เกิดไอเดียว่าเขาควรที่จะใช้ช่วงเวลานี้บันทึกภาพวันสำเร็จการศึกษาให้กับบรรดานักเรียนชาวยูเครนไว้เป็นทั้งประวัติศาสตร์และความทรงจำตลอดไป
ก่อนเกิดสงครามขึ้นนั้น สแตนิสลาฟ เซนิค (Stanislav Senyk) เขาเป็นช่างภาพงานแต่ง และรับถ่ายภาพตามพิธีต่าง ๆ ทั่วไป พอสงครามเกิดขึ้นเซนิคก็หันมาบันทึกภาพบ้านเมืองและวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม เขามีแนวคิดว่าควรจะทำอะไรให้คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ๆ ไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา เซนิคเลยประกาศชักชวนว่ามีนักเรียนในเมืองเชอร์นิกอฟคนไหนบ้างไหม ที่จะอยากออกมาให้เขาบันทึกภาพในโอกาสสำเร็จการศึกษากันบ้าง
หลังประกาศออกไป ก็ได้ผลเกินคาด มีนักเรียนกว่า 40 คน ให้ความสนใจ พวกเขาใส่สายสะพายในฐานะผู้สำเร็จการศึกษา ออกมาโพสท่ากันท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนที่โดนระเบิดจากสงคราม ออกมาเป็นภาพชุดสำเร็จการศึกษา ที่ให้อารมณ์หลอกหลอน และจะฝังลึกในความทรงจำของบรรดานักเรียนเหล่านี้ตลอดไป บรรดานักเรียนชายหญิงต่างออกมาโพสท่ากับรถถัง ตึกที่โดนระเบิดพังทลาย รถที่ถูกไฟไหม้ แต่สีหน้าและสายตาของพวกเขาก็สื่อออกมาได้ถึงพลังและแรงฮึดสู้ที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป
เซนิคยังย้ำเตือนสตินักเรียนทุกคนที่มาร่วมถ่ายภาพกับเขาว่า ให้จดจำวันนี้ไว้ว่าเขาและเธอทั้งหลายต้องใช้ความพยายามมากมายเพียงใดที่จะมุมานะเรียนจนจบการศึกษาได้ท่ามกลางภาวะสงครามเช่นนี้ ถึงแม้พวกเขาและเธอจะต้องประสบกับความผิดหวัง เพราะไม่ได้มีประสบการณ์อย่างที่รุ่นพี่ของพวกเขามีกัน นั่นก็คืองานฉลองวันสำเร็จการศึกษา และงานพรอม แต่สถานการณ์เหล่านี้จะหล่อหลอมให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น เซนิคกล่าวว่าเขาตั้งใจที่จะใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่เขาสะสมมาถ่ายทอดภาพเหล่านี้ให้โลกได้เห็นว่า นี่คือชีวิตจริงของเหล่าเด็ก ๆ ที่จบการศึกษากันในช่วงเวลาแห่งสงคราม
“ไอเดียหลัก ๆ ของผมที่ถ่ายภาพเซตนี้ออกมาก็เพื่อที่จะบันทึกช่วงเวลาหนึ่งของเด็กนักเรียนเหล่านี้ไว้ ในอนาคตเมื่อพวกเขากลายเป็นพ่อแม่คน เขาก็จะนำภาพเหล่านี้ออกมาอวดลูก ๆ ของพวกเขาว่า ครั้งหนึ่งเคยเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะจดจำสิ่งที่รัสเซียได้กระทำต่อยูเครนไว้และจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง”