วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง เทนเซ็นต์ (Tencent Holdings) แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) และอีกหลายบริษัท ได้ลงนามตกลงที่จะหยุดการสนับสนุนการซื้อขาย NFT ในตลาดมือสอง และควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด
บริษัททั้งหมด 30 บริษัท ลงนามในข้อตกลงที่เรียกว่า ‘โครงการพัฒนาการควบคุมตนเองในอุตสาหกรรมของสะสมดิจิทัล’ (Digital Collectible Self-Discipline Development Initiative) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะหยุดการซื้อขาย NFT ในตลาดมือสองและยับยั้งการเก็งกำไรในตลาดของสะสมดิจิทัล
ซึ่งอุตสาหกรรม NFT เป็นตลาดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนจากการเก็งกำไร ถึงแม้ประเทศจีนจะยังไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับ NFT แต่ประเทศจีนก็มีวัฒนธรรมที่จะไม่สนับสนุนอะไรก็ตามที่มีความผันผวนสูงและส่งผลกระทบถึงความมั่นคงทางการเงินของผู้คน เห็นได้จากการสั่งห้ามการใช้งานคริปโทฯ ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก
อย่างไรก็ตาม ในหลายเดือนที่ผ่านมาบริษัทด้านเทคโนโลยีในจีนก็ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับของสะสมดิจิทัล อย่างเช่นเทนเซ็นต์ และแอนท์ กรุ๊ป ที่ได้เปิดแพลตฟอร์มซื้อขายของตนเอง หรือบริษัทสื่ออย่างสำนักข่าวซินหัว ก็ได้ออกคอลเล็กชัน NFT ของตัวเองเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ทั้งหมดถูกซื้อขายด้วยสกุลเงินหยวนของจีนเนื่องจากนโยบายการไม่สนับสนุนคริปโทฯ ของประเทศ
นอกจากประเด็นการห้ามซื้อขาย NFT ในตลาดมือสอง ข้อตกลงนี้ยังมีการเรียกร้องให้ผู้ใช้งานที่ต้องการจะซื้อ NFT จากแพลตฟอร์มระบุตัวตนโดยใช้ชื่อจริง ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และต้องทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใช้บนแพลตฟอร์ม ‘ปลอดภัยและควบคุมได้’ อีกด้วย
ที่มา: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส