คณะทำงานพหุภาคีแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ เตรียมเสนอบอร์ด กสทช. ขีดเส้นตายให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายสร้างระบบให้ประชาชนเลือกสมัครบริการปฏิเสธไม่รับสายที่โทรมาจากต่างประเทศ เพื่อลดความเดือดร้อนจากปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์โดยเร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ประธานคณะทำงานพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งโทรศัพท์ (Call Center) และข้อความสั้น (SMS) หลอกลวง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานพหุภาคีฯ จะเสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณากำหนดในเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย สร้างระบบหรือแอปพลิเคชัน ที่ให้ประชาชนสามารถเลือกสมัครบริการปฏิเสธไม่รับสายที่โทรมาจากต่างประเทศได้ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากมิจฉาชีพ
โดยประชาชนที่ไม่มีธุระ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับต่างประเทศ สามารถเลือกบริการที่จะไม่รับสายที่โทรมาจากต่างประเทศได้ เพื่อเป็นการป้องกัน ลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน และแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินงาน คณะทำงานฯ จะเร่งผลักดันให้เกิดผลต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะทำงานพหุภาคีฯ ยังได้เน้นย้ำความสำคัญของการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน โดยให้โอเปอเรเตอร์ใส่เครื่องหมายบวก (+) นำหน้าทุกเลขหมายที่โทรเข้ามาจากต่างประเทศ โดยมีการแยกแยะ เช่น หากมีสายเรียกเข้าขึ้นต้นด้วย +697 แสดงว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาจากต้นทาง และเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +698 เป็นสายที่โทรจากเบอร์มือถือไทยที่ใช้บริการโรมมิง แล้วโทรกลับมาเมืองไทยจากต่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนแยกแยะออก ซึ่งหากประชาชนไม่มีครอบครัวหรือธุระติดต่อกับต่างประเทศก็ควรจะระมัดระวังหากจะรับสาย
“ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ และ SMS หลอกลวง จะเห็นว่ามีข่าวการจับกุม แก๊งมิจฉาชีพที่ใช้อุปกรณ์โทรไปหลอกลวงประชาชนมาดำเนินคดี โดยใช้ข้อมูลเบาะแสจากประชาชน และความร่วมมือของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงาน กสทช. และโอเปอเรเตอร์ เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ” นายประวิทย์ กล่าว
ที่มา : กสทช.