ถึงแม้จะมีรายงานว่าตลาดแรงงานในสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากช่วงโควิด แต่รายงานนี้ไม่มีผลนักกับบริษัทเทคโนโลยี เนื่องจากพวกเขายังคงปลดพนักงานและลดอัตราการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
ในเมื่อตลาดแรงงานโดยรวมกำลังเติบโต แต่สาเหตุที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง แอมะซอน (Amazon) โอราเคิล (Oracle) และไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยังคงปลดพนักงานอยู่เรื่อย ๆ เป็นเพราะว่าพวกเขาจ้างพนักงานมาเยอะเกินไปในช่วงโควิด และต้องมาปลดพนักงานออกในเวลานี้เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง
การแพร่ระบาดของโควิดไม่ได้ส่งผลเสียต่อทุกอุตสาหกรรมเสมอไป ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างธุรกิจสายการบิน โรงแรม และร้านอาหารได้รับผลกระทบหนัก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ หรือธุรกิจขนส่งเดลิเวอรีกลับเติบโตอย่างมหาศาล และพวกเขาต้องจ้างพนักงานเพิ่มเป็นจำนวนมากเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ในตอนนี้ที่ธุรกิจภาคอื่นเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจที่เคยเติบโตอย่างมากก็เติบโตช้าลง รวมไปถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรุนแรง ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องเริ่มคิดหนักเรื่องการลดต้นทุนลง จึงนำไปสู่การปลดพนักงานอย่างต่อเนื่องของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้
แอมะซอนเติบโตขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นมหาศาลในช่วงโควิด แต่ในตอนนี้ก็กำลังปลดพนักงานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ในขณะที่บริษัทผู้ให้บริการธุรกิจออนไลน์อย่าง ชอปปิฟาย (Shopify) ก็เติบโตอย่างมากจากการที่หลายธุรกิจโดยเฉพาะร้านอาหารต้องปรับตัวมาอยู่บนโลกออนไลน์ในช่วงโควิด ก็เพิ่งประกาศปลดพนักงานไปราว 10% เนื่องจากคาดการณ์ระยะเวลาของการแพร่ระบาดผิดไป
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ธุรกิจภาคอื่นอย่างการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว แต่ก็กำลังประสบปัญหาในการดึงพนักงานคนเก่ากลับมาทำงานเช่นกัน เนื่องจากพนักงานบริการที่เคยถูกปลดไปในช่วงโควิดหลายคนไปได้งานใหม่ และอาจรู้สึกว่างานใหม่นั้นดีกว่างานเก่าที่ต้องโดนรังแกและต่อว่าโดยลูกค้า เลยไม่อยากกลับไปทำงานในสายงานเดิมอีก
ที่มา: CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส