โฟลเกอร์ เติร์ก (Volker Türk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN) ออกจดหมายเปิดผนึกถึงอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของทวิตเตอร์ (Twitter) โดยเรียกร้องให้ยกสิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจสำคัญในการบริหาร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จดหมายดังกล่าวมีขึ้น หลังจากทวิตเตอร์ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนครึ่งหนึ่งของบริษัทฯ ราว 3,700 คน ซึ่งรวมถึงทีมงานด้านสิทธิมนุษยชน และทีมงานด้านจริยธรรม AI ซึ่งทาง UN มองว่านี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นในการบริหารงานที่ดีนัก
ข้อความส่วนหนึ่งในจดหมายของเติร์กระบุว่า “แม้ว่าทวิตเตอร์จะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ปฏิวัติการสื่อสารในโลกยุคปัจจุบัน แต่ผมก็อดเป็นกังวลไม่ได้ว่าพื้นที่เสรีแห่งการแสดงความคิดเห็นนี้ รวมถึงบทบาทใหม่ของทวิตเตอร์จะเป็นอย่างไรในอนาคต อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ บนโลก ผมขอให้ทวิตเตอร์เข้าใจถึงความเสี่ยงของแพลตฟอร์มของตนเอง และดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนหลักของสิทธิมนุษยชน รวมถึงการใช้หลักการนี้เป็นเกราะป้องกันสำหรับการใช้งานและการพัฒนาแพลตฟอร์มในอนาคต”
ภายในจดหมายเปิดผนึกของข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN ยังได้เรียกร้องให้ทวิตเตอร์ยืนหยัดเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และเน้นย้ำว่าทวิตเตอร์ต้องหลีกเลี่ยงการทวีความรุนแรงของเนื้อหาที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้อื่น
“เสรีภาพทางการพูดนั้น ไม่ใช่เสรีภาพที่จะพูดเรื่องอะไรก็ได้ ผมขอยกตัวอย่างช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส โดยคุณนั้นไม่สามารถที่จะพูด เผยแพร่ หรือยอมให้คนกลุ่มหนึ่งเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ ต่อกันไปเรื่อย ๆ เพราะสิ่งนี้จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้น ทวิตเตอร์จึงมีหน้าที่ในการควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตราย และอาจละเมิดสิทธิของผู้อื่น” ข้อความส่วนหนึ่งในจดหมายของเติร์กระบุ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส