สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ไดโซ อินดัสทรีส์ (Daiso Industries) เจ้าของแบรนด์ “ไดโซ” (Daiso) ธุรกิจขายสินค้าราคา 100 เยนในญี่ปุ่น ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขาในสหรัฐฯ กว่า 10 เท่า หรือคิดเป็นจำนวน 1,000 สาขาในระยะยาว โดยมีปัจจัยสำคัญอย่างเงินเฟ้อที่พุ่งสูง เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันมองหาสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาถูก
ปัจจุบัน มีร้านไดโซกว่า 80 สาขาในหลายรัฐของสหรัฐฯ เช่น แคลิฟอร์เนียและเท็กซัส โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 30 แห่งในรัฐแอริโซนา และรัฐอื่น ๆ ในปีงบการเงินหน้า และในระยะยาวจะเปิดให้ได้ถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศสหรัฐฯ
“เราคิดว่า สินค้าที่มีคุณภาพ และมีราคาเดียวกันทั้งร้านจะดึงดูดผู้บริโภคชาวอเมริกันได้ โดยไดโซมีแผนที่จะรุกตลาดไปทั่วทั้งสหรัฐฯ” ตัวแทนของไดโซกล่าว
หนึ่งในดัชนีชี้วัดที่ทำให้ไดโซบุกมาทำตลาดในสหรัฐฯ คือ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของร้านค้าที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันที่เรียกว่า “Dollar Shops” โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไดโซได้เปิดสาขาแรกในย่านแมนฮัตตันของมหานครนิวยอร์ก
สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศนั้น ไดโซเริ่มต้นที่ไต้หวันเมื่อปี 2001 โดยข้อมูลล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ร้านไดโซมีสาขาทั้งหมด 2,300 สาขา ใน 25 ประเทศและดินแดนนอกญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ซึ่งหากนับเฉพาะในเกาหลีใต้นั้น มีร้านไดโซมากถึง 1,300 สาขาเลยทีเดียว
ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญที่ไดโซเลือกใช้ในการขยายสาขามาโดยตลอด นั่นก็คือ การเปิดสาขาในประเทศที่กำลังมีปัญหาเศรษฐกิจและการเลิกจ้าง เนื่องจากผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัด และควบคุมค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน การมองหาสินค้าที่มีคุณภาพในร้านราคาเดียวจึงกลายเป็นที่ผู้บริโภคต้องการ
ที่มา : JAPAN TIMES
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส