รัฐสภาอินโดนีเซียลงมติผ่านร่างกฎหมาย ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า กฎหมายดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้ามาท่องเที่ยวในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ
กฎหมายดังกล่าวมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ การกำหนดให้พลเมืองชาวอินโดนีเซีย และชาวต่างชาติภายในประเทศ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน และห้ามอยู่กินร่วมกันก่อนการแต่งงาน โดยกำหนดให้บุคคลที่มีสิทธิ์เข้าแจ้งความเป็นกลุ่มแคบ ๆ เท่านั้น เช่น ญาติสนิท
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการห้ามดูหมิ่นประธานาธิบดี ซึ่งมีเพียงประธานาธิบดีเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ รวมถึงการห้ามดูหมิ่นสถาบันของรัฐ, การห้ามเผยแพร่ความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของรัฐ และการจัดเวทีชุมนุมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
กฎหมายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองในรัฐสภา รวมถึงบางองค์กรมุสลิมในอินโดนีเซีย และแม้ว่าร่างกฎหมายจะผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว แต่กว่าจะมีการประกาศบังคับใช้อย่างจริงจังนั้นจะต้องรออย่างน้อยอีก 3 ปี เพื่อให้มีเวลาในการร่างระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ
ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีกฎหมายห้ามการล่วงประเวณี แต่ไม่ได้ห้ามการมีเพศสัมพันธ์ก่อนสมรส และการอยู่กินร่วมกันก่อนการแต่งงาน
เมาลานา ยูสราน (Maulana Yusran) รองหัวหน้าคณะกรรมการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวย้อนแย้งกับวัตถุประสงค์อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ หลังได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“ผมเสียใจเป็นอย่างมากที่รัฐบาลพยายามจะปิดหูปิดตาของเรา และที่ร้ายไปกว่านั้น คือ พวกเขาไม่รู้เลยว่ากฎหมายนี้ร้ายแรงเพียงใดต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ” ยูสรานกล่าว
ซิทรา รีเฟอร์แรนดัม (Citra Referandum) ทนายความของสถาบันช่วยเหลือทางกฎหมายอินโดนีเซีย กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่แค่ความพ่ายแพ้ แต่เป็นความตายของระบอบประชาธิปไตยของอินโดนีเซีย กระบวนการนี้ไม่เป็นแม้แต่ประชาธิปไตยเลยด้วยซ้ำ”
ขณะเดียวกัน ยาซอนนา เลาลี รัฐมนตรีกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซีย ได้ออกมากล่าวตอบโต้รีเฟอร์แรนดัมว่า “อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะออกกฎหมายได้ถูกใจทุกคน”
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส