ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวโปรแกรม ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI ที่สามารถหาข้อมูล ตอบคำถาม เขียนบทความ รวมไปถึงแต่งกลอนให้กับผู้ใช้งานได้ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนทั่วโลก โปรแกรมนี้ทำให้พนักงานกูเกิล (Google) เสนอเรื่องนี้ในที่ประชุม แต่ผู้บริหารกล่าวว่าบริษัทขนาดใหญ่แบบกูเกิลไม่ควรเร่งทำแชตบอตแบบนี้ เนื่องจากไม่สามารถเสี่ยงได้เหมือนสตาร์ทอัปเล็ก ๆ ถ้าเกิดแชตบอตให้คำตอบผิด ๆ แก่ผู้ใช้งาน
ในงานประชุมใหญ่ครั้งล่าสุดของกูเกิล พนักงานได้กล่าวถึงแชตบอตตัวใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI พร้อมถามว่าแชตบอตแบบนี้เป็นโอกาสที่กูเกิลพลาดไปหรือไม่ เนื่องจากกูเกิลก็มี แลมดา (Lamda) ซึ่งเป็น AI ที่ใช้ตอบโต้บทสนทนามาสักพักแล้ว
ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ประธานกรรมการบริหารของ Alphabet และ เจฟฟ์ ดีน (Jeff Dean) หัวหน้าฝ่าย AI ของกูเกิล ตอบคำถามนี้ว่าทางบริษัทมีความสามารถมากพอที่จะพัฒนาสินค้าประเภทนี้ได้ แต่ราคาที่บริษัทต้องจ่ายถ้าเกิด AI ตัวนี้เกิดความผิดพลาดขึ้นมานั้นมหาศาลอย่างมาก เนื่องจากผู้คนจะต้องเชื่อในสิ่งที่กูเกิลบอกพวกเขา
ทุกวันนี้มีผู้ใช้งานกูเกิลอยู่หลายพันล้านคน ในขณะที่ ChatGPT เพิ่งมีผู้ใช้งานเกิน 1,000,000 คน ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา และยังรองรับการใช้งานจำนวนมากไม่ได้ด้วย สังเกตได้จากการที่โปรแกรมไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงที่มีผู้ใช้งานพร้อมกันมากเกินไป
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ประธานกรรมการบริหารของ OpenAI ยังได้ทวีตข้อความด้วยว่า ChatGPT นั้นยังมีข้อจำกัดอยู่ และไม่ควรที่จะพึ่งพามันมากในเรื่องที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างของความก้าวหน้า และยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาอีกเยอะเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือ
ดีนยังย้ำอีกว่าสิ่งที่กูเกิลต้องแบกรับด้วยนั่นก็คือ ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง’ ซึ่งประเมินมูลค่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นบริษัทจะต้องพัฒนาและตัดสินใจอย่างระมัดระวังและละเอียดอ่อนมากกว่าบริษัทสตาร์ตอัปเล็ก ๆ หลายเท่า บริษัทจะต้องหาสมดุลให้ได้ระหว่าง ‘ความกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ ‘ กับ ‘ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม’ แต่พิชัยก็ยังยืนยันว่ากูเกิลนั้นมีแผนมากมายสำหรับปี 2023 ที่จะถึงนี้
ที่มา: CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส