สื่อต่างประเทศรายงานว่า World Population Review องค์กรอิสระที่มุ่งเน้นการสำรวจด้านประชากรศาสตร์ เปิดเผยว่า จำนวนประชากรคาดการณ์ในอินเดียอาจแซงหน้าจีนไปแล้ว โดยอ้างอิงจากตัวเลขประมาณการ ณ สิ้นปี 2022 คือ จำนวนประชากรของอินเดียอยู่ที่ 1,417 ล้านคน ในขณะที่จำนวนประชากรของจีนที่ทางการเปิดเผยออกมาล่าสุดอยู่ที่ 1,412 ล้านคน ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลของ World Population Review ยังคงเป็นตัวเลขคาดการณ์อยู่ เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการจากอินเดีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ยังไม่สามารถลงพื้นที่เพื่อสำรวจตัวเลขประชากรได้
อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติ (UN) เคยคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรในอินเดียจะแซงหน้าจีนภายในสิ้นปี 2023 นี้ ในขณะที่การคาดการณ์ของ World Population Review ระบุว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้ อินเดียจะมีประชากร 1,432 ล้านคน ส่วนองค์กรวิจัยอย่าง Macrotrends คาดการณ์ว่า จำนวนประชากรล่าสุดของอินเดียอยู่ที่ 1,428 ล้านคนแล้ว
แม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนของตัวเลขจำนวนประชากรล่าสุด แต่สถิติในขณะนี้พบว่า ประชากรเกินครึ่งของอินเดียมีอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงแรงงานและกำลังซื้อภายในประเทศในอนาคต
โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และสามารถฟื้นตัวได้ดีหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ประชากรอินเดียกว่า 800 ล้านคน ยังคงพึ่งพาโครงการจัดหาอาหารของรัฐบาลอยู่ ซึ่งนับว่าเป็นโครงการช่วยเหลือจากภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ดังนั้น การที่อินเดียจะประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยจำนวนประชากรมหาศาลขนาดนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ของอินเดีย จำเป็นต้องเพิ่มการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น
ปัจจุบัน เศรษฐกิจอินเดียขับเคลื่อนด้วยภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยอินเดียเป็นผู้ผลิตข้าว ข้าวสาลี และน้ำตาลรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะเดียวกันก็เป็นผู้บริโภคน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกเช่นกัน ในฐานะตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด
นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติยังประเมินอีกว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2022 – 2025 จะกระจุกตัวอยู่ใน 8 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ คองโก, อียิปต์, เอธิโอเปีย, อินเดีย, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์ และแทนซาเนีย
ที่มา : South China Morning Post
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส