วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ‘ดิว – อริสรา ทองบริสุทธิ์’ นักแสดงวัย 32 ปี ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงเหตุผลที่ต้องออกมาแฉ พี่น้อง 4 บ. และขบวนการพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’ หลังสังคมตั้งข้อสังเกตถึงอาชีพของ ‘เซบาสเตียน ลี’ สามีของ ‘ดิว อริสรา’
‘ดิว อริสรา’ เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเดินทางมาถึงไต้หวันตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2565 ซึ่งเป็นแผนที่ตั้งใจไว้อยู่แล้ว โดยช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมาก และมีครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งขณะที่พำนักอยู่ที่ไต้หวันนี้ ตนได้ทราบข่าวว่า ‘บิ๊ก’ หนึ่งในพี่น้อง 4 บ. กำลังจะหมั้นหมาย ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากจากความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความในคืนวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาดังที่ปรากฎเป็นข่าวนั่นเอง
โดยนักแสดงสาวอธิบายว่า เธอถูก ‘เบนซ์’ หนึ่งในพี่น้อง 4 บ. ทำร้ายร่างกายและจิตใจเป็นเวลามากกว่า 1 ปี โดยสมาชิกในครอบครัวนั้นรับทราบ และไม่เคยให้การช่วยเหลือหรือห้ามปรามใด ๆ นอกจากนี้ ยังมีการแก้ต่างให้ว่าเบนซ์ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ‘ดิว อริสรา’ ใด ๆ
ทั้งนี้ ‘ดิว อริสรา’ ได้เปิดเผยภาพหลักฐานที่เธอถูกทำร้ายร่างกาย เป็นบาดแผลบริเวณหน้าผาก แก้ม และส้นเท้า นอกจากนี้นักแสดงสาวยังกล่าวเสริมว่า เธอเคยถูกมาม่าร้อน ๆ มาราดหัว แม้ว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ซึ่งการกระทำเหล่านี้ได้สร้างบาดแผลในจิตใจอย่างมาก จนเธอต้องเข้ารับการรักษาและบำบัดจากจิตแพทย์
ขณะนี้ ‘ดิว อริสรา’ เปิดเผยว่าบาดแผลในจิตใจได้รับการเยียวยาให้ดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง นักแสดงสาวระบุว่าเมื่อเห็นแผลเป็นจากการถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้ความทรงจำแย่ ๆ บางส่วนย้อนกลับมา และไม่อาจรักษาให้หายได้โดยสมบูรณ์
จากการบำบัดและความรักความอบอุ่นที่ได้รับจากสามีและครอบครัว ‘ดิว อริสรา’ เปิดเผยว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีความกล้ามากพอที่จะออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมของ พี่น้อง 4 บ. และขบวนการพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’ ที่พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้อง และนี่คือเหตุผลที่ทำเธอให้ต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้
สำหรับข้อสังเกตที่สังคมตั้งคำถามว่า เธออาจมีการขัดผลประโยชน์กับขบวนการพนันออนไลน์ รวมถึงการเรียกร้องหรือข่มขู่เพื่อขอรับผลประโยชน์นั้น นักแสดงสาวยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า เธอเพียงแต่ต้องการรักษาจิตใจของตนเอง และให้คนผิดได้รับบทลงโทษเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยภาพแชตข้อความของบุคคลหนึ่งที่ระบุว่า มีการติดต่อมาเพื่อเสนอผลประโยชน์ในการปิดปากเงียบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเธอยืนยันว่าไม่ต้องการ
สำหรับประเด็นถัดมาที่สังคมตั้งข้อสังเกตเป็นวงกว้าง และมีการเผยแพร่ภาพของ ‘เซบาสเตียน ลี’ ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นสามีของ ‘ดิว อริสรา’ ในโซเชียลมีเดียนั้น นักแสดงสาวชี้แจงว่า สามีทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและร้านอาหารในไต้หวัน เนื่องจากจบการศึกษาจากด้านนี้โดยตรง
โดยในปี 2557 (ปี 2014) นั้น ‘เซบาสเตียน ลี’ เดินทางมาประเทศไทย เพื่อทดลองขยายธุรกิจใหม่ ๆ นั่นก็คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจุดนี้ทำให้เขาได้รู้จักและพบเจอกับผู้คนในธุรกิจต่าง ๆ
สำหรับคลิปวิดีโอจำนวน 3 คลิป ที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตถึงอาชีพของ ‘เซบาสเตียน ลี’ ว่าเขาทำอะไร และทำไมจึงมีรถตำรวจนำขบวนได้ ‘ดิว อริสรา’ อธิบายว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวเกิดขึ้นในต่างประเทศ 2 คลิป และในประเทศไทย 1 คลิป ซึ่งคลิปหลังนี้ ‘เซบาสเตียน ลี’ เป็นผู้โพสต์เองผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว
คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ ‘เซบาสเตียน ลี’ เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่ง ‘ดิว อริสรา’ ได้เปิดเผยภาพอีเมลยืนยันการจองที่พัก พร้อมกันแพ็กเกจที่ระบุว่ามีรถตำรวจและเจ้าหน้าที่ในการไปรับ – ส่ง ระหว่างโรงแรมและสนามบิน ซึ่ง ‘เซบาสเตียน ลี’ เข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากโรงแรมเป็นผู้ประสานงานและติดต่อดำเนินการให้ โดยมีการคิดค่าบริการ
สำหรับอีก 2 คลิป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในต่างประเทศนั้น ‘ดิว อริสรา’ ระบุว่าเป็นการจัดการของคนรู้จักของ ‘เซบาสเตียน ลี’ ซึ่งสามีไม่ได้รับรู้ในกระบวนการดำเนินการดังกล่าว โดยนักแสดงสาวขอให้สังคมใช้การวิเคราะห์และแยกแยะเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเรื่องนี้กำลังถูกทำให้ประเด็นหลักผิดเพี้ยนไป นั่นก็คือ การทลายและจับกุมขบวนการพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’
ในช่วงท้าย ‘ดิว อริสรา’ ได้ขอโทษผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นทางจิตใจ หรือความเป็นอยู่ นอกจากนี้ ยังขอโทษสามี ซึ่งไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการโพสต์ข้อความดังกล่าว และกำลังถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการทลายและจับกุมขบวนการพนันออนไลน์ ‘ดิว อริสรา’ ยืนยันว่าเธอต้องออกมาพูดเรื่องนี้ และเพื่อรักษาจิตใจของตัวเอง ทั้งนี้ นักแสดงสาวขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระบวนการยุติธรรมของไทยเร่งดำเนินการจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด เพื่อคืนสันติภาพสู่สังคม
ที่มา : Due Arisara
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส