ถ้าพูดถึงคลิปที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นคลิป “ใบปริญญามีไว้เพื่ออะไร” ของมหาวิทยาลัยมหิดลอย่างแน่นอน ที่มีเนื้อหาเรียบๆ แต่ก็ฮอตฮิตและถูกแชร์อย่างล้นหลาม แถมยังมียอดวิวร่วม 2 ล้าน ในเวลาไม่กี่วันด้วย ว่าแต่คลิปนี้ มีอะไรกันนะ ทำไมถึงมีผู้ชมและผู้แชร์กันเยอะขนาดนี้ อย่าช้าดีกว่า มาดูกันค่ะ
คลิปนี้เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า “ปริญญามีไว้เพื่ออะไร” จากนั้นก็ตัดภาพสลับกับการถ่ายทำบรรยากาศของวันรับพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา (แน่นอนว่าวันนั้นตอนดูคลิปนี้ครั้งแรก บีและเหล่าๆเพื่อนบัณฑิตคนอื่น ก็น้ำตาซึมตามๆกัน)
และก็ตัดไปที่คลิปวิดีโอนี้อีกครั้ง โดยเป็นเสียงของ “ใบปริญญา” พูดเอง
ถัดมาใบปริญญาก็มาเล่าเรื่องของหนุ่มสาวออฟฟิศ ที่ต่างฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ เพื่อตามหาความสำเร็จของตนเอง
จากนั้นก็ตามมาด้วยคำถามว่า “คุณมีปริญญาแค่นี้รึเปล่า”
พอดีกว่าไม่สปอยแล้ว บีว่าไปดูเองจนจบดีกว่าเนอะ
หาความหมายของใบปริญญากับมหาวิทยาลัยมหิดล
ย้อนกลับมาที่ตัวเราเองกันบ้าง หลายครั้งเรามองเห็นปัญหาชีวิตของเราเป็นเรื่องใหญ่ เป้าหมายชีวิตของเราเป็นสิ่งสำคัญ จนบางครั้งเราก็ละเลยคนรอบข้าง และคนอื่นๆในสังคม บีเชื่อว่าต้องมีบ้างแหละ ที่เราเผลอทำอะไรที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ส่วนหนึ่งก็คงต้องโทษสังคมในปัจจุบัน ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เลย หล่อหลอมให้เรามองหาแต่จุดหมาย จนละเลยสิ่งดีงามหลายๆอย่างบนโลกนี้ไป..
บีเองก็เป็นหนึ่งในนักศึกษามหิดล ที่เรียนที่มหิดล วิทยาเขตศาลายามาร่วม 4 ปี เรียกได้ว่าทุกส่วน ทุกพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนี่บีคุ้นเคยหมดแล้ว แต่ส่วนที่บีคุ้นเคยและจำได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้น พระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนก หรือพระบิดานั่นเอง “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตน เป็นที่สอง ประโยชน์ของ เพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง”
ความรู้สึกแรกตอนได้ยินข้อความนี้ที่มหาวิทยาลัยในช่วงเฟรชชี่ บอกได้เลยว่า ขนลุกมากค่ะ เพราะมันทำให้บีชะงักว่า ไอ้ช่วง 18 ปีของชีวิตที่ผ่านมาเราทำอะไรเพื่อสังคมบ้างนะ หรือเราเอาแต่เรียกร้องอย่างเดียว จากนั้นก็เกิดความคิดที่ว่า “นอกจากภาระที่เราต้องรับผิดชอบตัวเองแล้ว ภาระสังคมเราก็ต้องรับผิดชอบด้วย ”
ฟังดูอาจจะดูเหมือนยาก แต่บีคิดว่าการทำอะไรเพื่อสังคมที่ง่ายที่สุด คือการเริ่มจากการไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สิ่งต่อมาก็คือการรู้จักให้ การ “ ให้ ” ในที่นี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่การให้เงินหรือสิ่งของ แต่อาจเป็นการให้สิ่งอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตักเตือนคนทีกำลังทำผิดอยู่ ให้เขาตระหนักได้ หรือการมอบความรู้ดีๆให้กับผู้อื่นด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงการไม่ละเลยที่จะส่งต่อโอกาสดีๆต่างๆให้กับคนอื่น
คงเป็นเรื่องที่ดีหากเราจะใช้ใบปริญญาและความรู้ที่เราร่ำเรียนมาทำเพื่อคนอื่นด้วย เพราะสิ่งที่เราควรจะมองเห็นคือ เราเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสดีๆมากกว่าคนอื่น และหากเราใช้โอกาสที่เราได้รับนั้น ส่งต่อให้คนอื่นๆ โดยการทำความดีเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน สิ่งดีๆเหล่านั้นก็ย่อมส่งผลให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น