สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนสั่งห้าม 2 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง เทนเซ็นต์ (Tencent) และแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคในเครือของอาลีบาบา (Alibaba) ห้ามเสนอบริการ ChatGPT บนแพลตฟอร์มของทางบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแบบโดยตรง หรือผ่านบุคคลที่สามก็ตาม
แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่า หากบริษัทเทคโนโลยีใดในจีนต้องการจะเปิดตัวหรือให้บริการแชตบอตตอบคำถามในรูปแบบเดียวกับ ChatGPT จะต้องรายงานให้หน่วยงานกำกับดูแลของจีนทราบก่อน จึงจะดำเนินการเปิดตัวหรือให้บริการดังกล่าวต่อไปได้
ทั้งนี้ ChatGPT ถูกพัฒนาขึ้นโดย OpenAI สตาร์ทอัปที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ อย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
แม้ว่า ChatGPT ยังไม่สามารถใช้บริการได้อย่างเป็นทางการในจีนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนจีนได้ใช้งานมันเลย เพราะผู้ใช้งานบางรายเลือก ‘มุด VPN’ หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนมาใช้งาน ChatGPT ในขณะที่นักพัฒนาบุคคลที่ 3 (Third Party) ได้เปิดตัวโปรแกรมขนาดเล็ก (Mini Program) จำนวนมากบนแอปโซเชียลมีเดีย WeChat ของ Tencent ซึ่งอ้างว่าสามารถให้บริการ ChatGPT ได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล ทาง Tencent ได้ระงับการให้บริการ Mini Program จากนักพัฒนาบุคคลที่ 3 แล้ว ไม่ว่าโปรแกรมเหล่านั้นจะสามารถให้บริการ ChatGPT ได้จริง หรือเป็นแค่การลอกเลียนแบบ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะบริการที่มีที่มาจากสหรัฐฯ เช่น Google, Facebook, YouTube และ Twitter รวมถึง Reddit และ Wikipedia ซึ่งเพิ่งถูกสั่งแบนไปเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานกำกับดูแลจีนในครั้งนี้ เป็นผลมาจากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยสำนักข่าว ไชน่า เดลี่ (China Daily) ของทางการจีนรายงานว่า ChatGPT สามารถให้การช่วยเหลือรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและบิดเบือนเรื่องราวทั่วโลก เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง
ที่มา : Nikkei Asia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส