จากรายงาน Transforming Southeast Asia – From Discovery to Delivery ที่ลาซาด้าจัดทำขึ้นเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมนักช็อปในปีที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังโตต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าจะซบเซาแม้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้วเนื่องคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์
ข้อมูลที่น่าสนใจในรายงานมีดังนี้
- 74% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้ง
- 25% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าหลายครั้งต่อสัปดาห์
มีจำนวนผู้ขายที่ดำเนินธุรกิจบนลาซาด้าเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วงปี 2565
มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะเพิ่มเป็น 61.8% หรือ 43.5 ล้านคน ภายในปี 2568
และจากข้อมูลนี้ลาซาด้าตั้งเป้าจะเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการสร้างประสบกาณ์ให้มากกว่าแค่การช็อปปิงออนไลน์ ผ่านการนำเสนอบริการและฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช็อปออนไลน์และสร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคชาวไทย เช่น
- LazLive: การไลฟ์ขายของ
- VIRTUAL TRY-ON: การลองสินค้าผ่าน VIRTUAL
- BRAND MEMBERSHIP: การเป็นสมาชิกกับแบรนด์
- TRY & BUY: การส่งสินค้าให้ลองก่อนซื้อจริง (ในบางประเภทสินค้า)
- LazLOOK: คอมมูนิตี้แฟชัน อัปเดตเทรนด์ต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การปิดการขาย
- LazBEAUTY: รวมรวมทุกสิ่งอย่างที่ความสวยความงามต้องมี
- LazPayLater: บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง
- บริการห่อของขวัญ (Gift Wrapping)
- บริการติดตั้งสินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า
- จัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว (ค่าเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 1.1 วัน)
- ช็อปมั่นใจ คืนง่าย คืนฟรี
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ลาซาด้ากำลังพัฒนาเพื่อนำไปตอบโจทย์ผู้ใช้บริการชาวไทย แต่ก็มีบางสิ่งที่เริ่มใช้ไปแล้วเช่นกัน
คุณธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ลาซาด้าเน้นการเติบโตในระยะยาวอย่างมีคุณภาพ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครบวงจร และให้ความสำคัญกับการนำเสนอบริการที่แตกต่างให้กับผู้บริโภค ประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ที่ราบรื่นและปลอดภัย และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างอีโคซิสเต็มที่ยั่งยืน เพื่อให้อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยก้าวไปอีกขั้น”
และในต้นเดือนมีนาคมนี้ ลาซาด้าจัดแคมเปญลดแรงสูงสุด 90% ระหว่างวันที่ 3 – 13 มีนาคม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก