วันที่ 6 มีนาคม 2566 เว็บไซต์ไอคิวแอร์ (IQ Air) ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก ได้รายงานคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ (ล่าสุด เวลา 14.30 น.) ว่าดัชนีคุณภาพอากาศของเชียงใหม่อยู่ที่ 164 US AQI ซึ่งสูงติดอันดับ 4 ของโลก ในขณะที่กรุงเทพมหานครนั้นอยู่ในอันดับ 9 ของโลกที่ 155 US AQI
ต่อมาเวลา 16.00 น. กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศไทยว่ามีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ในขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ, พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ, พื้นที่ภาคกลาง มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ, พื้นที่ภาคตะวันออก มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงคุณภาพดี
สำหรับพื้นที่ภาคเหนือนั้น กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ตรวจพบสารมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานได้แก่ PM2.5 โดยตรวจพบค่าระหว่าง 57 – 129 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งหมด 32 จุด โดยในจำนวนนี้อยู่ในระดับอันตรายถึง 15 จุด ในขณะที่ PM10 นั้น ตรวจพบค่าระหว่าง 86 – 209 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งหมด 8 จุด
ทางด้านสำนักเชียงใหม่นิวส์รายงานว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (6 มี.ค. 66) สภาพอากาศทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบ และไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทางกายภาพว่าปัญหาฝุ่นควันของเมืองเชียงใหม่มีความรุนแรงและอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า เชียงใหม่ยังต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นควันจากไฟป่า แม้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะได้กำชับและสั่งการให้ทุกพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ดำเนินการมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเข้มงวดทุกมาตรการแล้วก็ตาม
ที่มา : กรมควบคุมมลพิษ, IQ Air, เชียงใหม่นิวส์