เคนดรา ลิคารี (Kendra Licari) หญิงชาวมิชิแกนถูกตั้งข้อหาว่าเธอตามรังควานและบูลลี่ลูกสาวตัวเองทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งหลังจากตามหาคนร้ายมานานเป็นปี ปรากฏว่าสามารถจับเธอได้หลังจากนั้นเป็นเวลานานกว่า 1 ปี
ลิคารีทำงานเป็นโค้ชบาสเกตบอลหญิงที่โรงเรียนของลูกสาว ซึ่งลูกสาวเองก็มีการร้องเรียนเรื่องโดนบูลลี่ทางอินเทอร์เน็ตมาตลอด ตัวแม่เองก็รับรู้เรื่องนี้และพาลูกสาวไปแจ้งความกับตำรวจ โดยแม่จะโยนความผิดไปให้เพื่อน ๆ ของลูกให้เป็นแพะรับบาปมาเสมอ
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตั้งแต่ราวปี 2021 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกบริเวณโรงเรียนและไม่ได้มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของโรงเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนทางการในมิชิแกนไม่รู้จะตามหาคนร้ายอย่างไร เพราะทางเขตเองก็ไม่มีอุปกรณ์ที่สามารถติดตามผู้ร้ายได้ จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแผนกอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของ FBI มาช่วยเหลือด้วย
ทางเอฟบีไอ (FBI) ได้ตรวจพบ IP Address ที่ใช้ในการส่งข้อความ ซึ่งงานนี้อึ้งทั้งตำรวจและลูกสาว เพราะเลข IP ดังกล่าวพบว่ามีความเชื่อมโยงกับลิคารีที่เป็นแม่ของเด็กสาว เจ้าหน้าที่อธิบายว่าลิคารีใช้ VPN ในการซ่อนตำแหน่งของเธอและยังพยายามทำให้ดูเหมือนว่าข้อความที่ส่งไปให้ลูกสาว เป็นข้อความจากบ้านที่วัยรุ่นคนอื่น ๆ อยู่
นอกจากนี้ เธอยังใช้คำแสลงและศัพท์วัยรุ่น เพื่อพยายามทำให้ดูเหมือนว่าข้อความนั้นมาจากวัยรุ่นอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่มีใครสงสัยเลยว่า ‘แม๊’ นี่แหละ เป็นผู้ก่อเหตุที่แท้จริง ซึ่งสำนักงานอัยการได้รวบรวมข้อความก่อกวนทั้งหลายที่เธอส่งให้ลูกสาว รวมถึงข้อความทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อีก ได้ออกมาจำนวนทั้งหมด 349 หน้า
หลังจากตำรวจพบตัว เธอได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ได้แก่ 1.ข้อหาสะกดรอยตามผู้เยาว์ 2 กระทง 2.ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อก่ออาชญากรรม 2 กระทง และ 3.ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม 1 กระทง อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าทำไมเธอถึงทำลงไปอย่างนี้
ลิคารีได้รับการประกันตัวด้วยเงิน 5,000 ดอลลาร์ (ราว 175,000 บาท) แต่ต้องมาลุ้นกับคำตัดสินของศาลอีกที เพราะว่าเธออาจมีสิทธิ์ต้องติดคุกยาวนานหลายปีก็ได้จากการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อก่ออาชญากรรม ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญาที่มีความผิดต้องติดคุกเป็นเวลา 10 ปี ขณะที่การสะกดรอยตามผู้เยาว์และการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมถือเป็นความผิดทางอาญา จำคุกเป็นเวลา 5 ปีทั้งคู่
ที่มา : Unilad
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส