วันที่ 14 มีนาคม 2566 The People สื่อออนไลน์ที่นำเสนอเนื้อหาสร้างสรรค์ผ่านมุมมองของ ‘คน’ ได้จัดงานเสวนา EDUCATION FORUM : T-WAVE จากปฏิรูป สู่ ปฏิบัติ “การศึกษาไทยสู่ระดับโลก”
ภายในงานได้มีการรวบรวมวิทยากรที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาไทย มาร่วมระดมความคิดในการออกแบบรูปแบบของการศึกษาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง และเป็นพลังในการขับเคลื่อนในอนาคตภายในแนวคิด “ปฏิรูปสู่ปฏิบัติ” เพื่อเตรียมพร้อมทรัพยากรมนุษย์คนไทยให้แข็งแกร่ง และเป็น “ยุทธศาสตร์ในการกำหนดการศึกษาให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก”
T-WAVE คลื่นใหม่ ไทยนิยม จะเป็นการขับเคลื่อนสังคมเพื่อสร้างความตระหนักให้แก่สังคมไทยในปัจจุบันให้มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และมาร่วมกันสร้างค่านิยมใหม่ให้การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
T-WAVE ให้ความสำคัญกับ 3T ได้แก่
- THAI หมายถึง คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกชวนคนไทยที่เก่ง ๆ ในระดับมืออาชีพมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจที่รวมไปถึงการสร้างค่านิยมที่ไม่ใช่แค่ภูมิใจว่าเป็นคนไทย แต่ต้องมั่นใจในศักยภาพของตัวเองออกมาให้ได้
- TECH หมายถึง การใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อนความรู้เพราะ การศึกษาของไทยได้ถูกทลายกรอบในช่วงโรคระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา จึงเห็นได้ว่าเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่จะมาช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ และพัฒนาคนไทยให้พร้อมเผชิญกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
- TEEN หมายถึง พัฒนาเด็กไทยให้เต็มประสิทธิภาพ เพราะการศึกษาในวันนี้จะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ดังนั้น คนทุกคนจะต้องเข้าใจตัวเด็กว่าเขาต้องการอะไรและต้องปรับรูปแบบของการศึกษาให้ตอบรับกับอนาคตของเยาวชนที่จะต้องโตมาเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า และเป็นแรงงานของประเทศชาติ ซึ่งก็รวมไปถึงการเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของโลกให้ได้
นอกจากนี้ ภายในงานเสวนายังได้รับเกียรติจาก ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาฯ พร้อมกับแสดงวิสัยทัศน์และแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาไทยในการสร้างกระแส T-WAVE
ภายในงานยังมีวิทยากรที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนและยกระดับการศึกษาศึกษาไทย พร้อมกับตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่ให้เกียรติมาร่วมระดมความคิด และแบ่งปันประสบการณ์เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะในการออกแบบการศึกษาในหลากหลายมิติ โดยรายละเอียดของเวทีเสวนาประกอบไปด้วย
เวที Solo Talk : T-WAVE คลื่นลูกใหม่ ไทยนิยม กับทิศทางอนาคตการศึกษาไทยทั้งหมด 4 หัวข้อมีดังต่อไปนี้
- หัวข้อ THAI ความสามารถคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก การศึกษาแบบไหนที่สร้างคนไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก วิทยากรโดย รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้กล่าวว่า
การศึกษาคือกุญแจที่สำคัญที่สุดในการสร้างคน เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันประเทศให้มีความโดดเด่นในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้นจึงต้องเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ อาทิ ทักษะฝีมือ, ภูมิปัญญา และคุณธรรม ที่รวมไปถึงด้านเทคโนโลยี, การเงิน, ภาษา จนไปถึงทักษะการวิเคราะห์, แก้ไขปัญหา, ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นผู้นำ
- หัวข้อ TECH เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนอนาคตประเทศไทย และการศึกษาที่ทันสมัยเน้นทักษะที่ใช้ได้จริง วิทยากรโดย โอชวิน จิรโสตติกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง FutureSkill ได้มองว่า
จุดเริ่มต้นของการเลือกว่าจะต้องการศึกษาสิ่งใด จำเป็นที่จะต้องประเมินจาก 3 แกนหลักได้แก่ ความถนัดของตัวเอง, ตลาดแรงงานในปัจจุบัน และทิศทางในอนาคต ในทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องที่เรียนจบไปแล้วทำงานไม่ตรงสายที่ได้เรียนมา หรือเปลี่ยนงานบ่อย ๆ จึงชวนตั้งคำถามว่าจะต้องทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่นั้นรู้ว่าตัวเองชอบ หรือถนัดอะไร เพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีให้ได้
- หัวข้อ TEEN การศึกษาที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ให้เท่าทันโลก และสนับสนุนคลื่นลูกใหม่เพื่อทำให้ทุกความฝันเป็นไปให้ได้ วิทยากรโดย วทันยา อมตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ทเวนดิ้ง จำกัด (คาเฟ่ตู้เต่าบิน) ได้เล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองว่า
ในฐานะของคนที่ไม่ได้ทำงานตรงตามสิ่งที่ตนเองนั้นเรียนจบมาตั้งแต่แรก และทำให้ชวนตั้งคำถามถึงระบบการศึกษา โดยมองว่า ทุกคนควรจะได้ค้นหาในสิ่งที่แต่ละคนนั้นชอบมากกว่านี้ พร้อมกับเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว และง่ายที่สุดคือ ‘การฝึกงาน’ โดยที่รัฐบาล, มหาวิทยาลัย และภาคธุรกิจต้องมาช่วยกันเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นหาตัวเองมากขึ้น
- หัวข้อ Future of T-WAVE องค์ประกอบที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดและพัฒนาการศึกษาไทยสู่ระดับโลก วิทยากรโดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ นักบริหารการศึกษามืออาชีพ ได้กล่าวว่า
อยากเห็นการหนุนให้เด็กไทยสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเต็มที่ โดยที่เด็กไทยจะต้องได้เรียนในระดับปริญญาตรีฟรี เพราะในตอนนี้ตลาดแรงงานยังต้องการกำลังคนที่สูง และต้องการแรงงานที่มีทักษะที่สูงเช่นเดียวกัน
ซึ่ง ศ.ดร. สุชัชวีร์ ได้ย้ำว่า T-WAVE นี่แหละคือ ทางรอด โดยที่จะเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยมีรายได้ที่สูง และตั้งเป้าให้คนไทยก้าวสู่การเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งให้ได้ ซึ่งคนไทยจะต้องเชื่อมั่น และสนับสนุนไทยนิยม ประเทศถึงจะอยู่รอด
หลังจากจบจากเวที Solo Talk : T-WAVE คลื่นลูกใหม่ ไทยนิยม ก็มีเวที Panel Discussion “ปฏิรูปสู่ปฏิบัติ” สร้างความทัดเทียมทางการเรียนรู้เพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันให้คนไทยสู่เวทีโลกระดมแนวคิดดุเดือดเข้มข้นไม่แพ้กัน นําโดยวิทยากร 4 ท่านดังต่อไปนี้
- รศ.ดร.เอกนฤน บางท่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร
แม้ว่าประเทศไทยจะมีเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนในด้านต่าง ๆ แต่เป็นเพราะว่าประเทศไทยมีระบบราชการที่ดำเนินการได้ช้าซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของประเทศที่รวมไปถึงระบบการศึกษาไทยที่กำลังประสบปัญหามาอย่างยาวนาน
- ดร.นิพัทธ์ รัศมีโกเมน ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท พีทีที เรส จำกัด
ผมอยากเห็นความโชคดีของตัวเองที่ได้รับการศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงระดับปริญญาตรีไปเป็นความโชคดีของเด็กไทยทุกคน นอกจากนี้ผมก็อยากจะเห็นประเทศไทยนำแนวปฏิบัติในเรื่องของการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีมาเป็นนโยบายสวัสดิการขั้นพื้นฐานด้วยที่เหมือนกับในต่างประเทศด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นรากฐานในการพัฒนาบุคลากร และแรงงานในอนาคต
- พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด
ผมมีมุมมองเพิ่มเติมที่นอกเหนือจาก “ปฏิรูป สู่ ปฏิบัติ” คือ ‘ปฏิเสธ‘ ปฏิเสธในสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต และปฏิเสธความรู้ที่ไม่จำเป็นในระบบการศึกษาปัจจุบัน นอกจากนี้ ผมยังเชื่อในเรื่องของการปฏิเสธความคิดในการเรียนระดับปริญญาตรี 4 ปี ในมหาวิทยาลัย เพราะว่าระบบดังกล่าวอาจจะมาขัดขวาง หรือแช่แช็งความคิดใหม่ ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจ หรือสร้างนวัตกรรมในช่วงอายุ 18 ถึง 22 ปี ในช่วงขณะเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งความต้องการที่จะเริ่มต้นธุรกิจอาจจะหายไปในช่วง 4 ปีของการศึกษาได้
- ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ นักบริหารการศึกษามืออาชีพ
ผมอยากจะเห็นคนไทยเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของโลก และเป็นผู้นำ เพราะในปัจจุบันคนไทยได้ถูกลืมในเวทีโลก ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า T-WAVE สามารถเป็นค่านิยมที่จะมาช่วยขับเคลื่อนคนไทยเป็นพลเมืองโลกชั้นแนวหน้าได้
การจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ทุกคนนั้นตระหนักถึงความสำคัญของการขับเคลื่อน และยกระดับระบบการศึกษาไทย ซึ่งทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้การศึกษาสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยได้ก้าวทันโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหากจะให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดพวกเขาจะต้องก้าวนำโลกในฐานะคลื่นลูกใหม่ ผู้สร้างกระแส T-WAVE ไทยนิยม
ที่มา The People