บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส คาดการณ์ปี 2566 ปริมาณผู้โดยสารทั่วโลกจะแตะระดับ 70 – 80% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยวางกลยุทธ์ปี 2566 เน้นความแข็งแกร่งในการให้บริการ ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารและสายการบินพันธมิตร ด้วยความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ดำเนินมากว่า 55 ปี เชื่อมต่อผู้โดยสารสู่ทุกเส้นทางบินยอดนิยม ดึงจุดเด่นการเป็นสายการบินที่มีบริการแบบพรีเมียม
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเดินทางระหว่างประเทศและการท่องเที่ยว ทยอยฟื้นตัวและมีการเดินทางของผู้โดยสารจากทั่วโลก ส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการบิน ในปีที่ผ่านมามีปริมาณการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส พบว่ายอดจองบัตรโดยสารเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ทั้งการเดินทางในประเทศ และระหว่างประเทศ ทำให้ปี 2565 มียอดขนส่งผู้โดยสารรวม 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 394.8 และ มีจำนวนเที่ยวบินให้บริการรวม 29,892 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 243.8 เมื่อเทียบกับปี 2564 ภาพรวมของจำนวนผู้โดยสารของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 45% ของปี 2562 โดยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 3 และแตะระดับที่ 65% ของช่วงก่อนโควิดในเดือนธันวาคม
คาดปีนี้ผู้โดยสารกลับมา 70-80%
สำหรับในปี 2566 คาดการณ์ว่าปริมาณผู้โดยสารจะอยู่ที่ 70-80% ของปี 2562 จากปัจจัยความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว และการเปิดประเทศของหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงการผ่อนปรนนโยบายการเดินทางช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์สให้บริการเที่ยวบินเส้นทางภายในประเทศ 15 เส้นทาง เส้นทางระหว่างประเทศ 7 เส้นทาง บริษัทฯ วางเป้าหมายในปี 2566 ดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าเที่ยวในประเทศไทย ตั้งเป้ารายได้ 15,000 ล้านบาท รวมเที่ยวบินกว่า 40,000 เที่ยวบิน อัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 76%
ชูบริการระดับพรีเมี่ยม
เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจ บางกอกแอร์เวย์สยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับและพัฒนาการให้บริการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารไปถึงยังจุดหมายปลายทาง (Connect Your Happiness) โดยดึงจุดเด่นของการเป็นสายการบินที่มีบริการครบครัน เช่น บริการเลือกที่นั่งก่อนการเดินทาง บริการสัมภาระฟรี 20 กก. บริการห้องรับรองผู้โดยสารแก่ผู้โดยสารทุกคน บริการอาหารในทุกเที่ยวบิน ในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยจุดแข็งของการเป็นเจ้าของและบริหารงานสนามบิน 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินสมุย สนามบินตราด และสนามบินสุโขทัย ที่จะสามารถรองรับเที่ยวบิน และเป็นศูนย์กลางการบินในการเชื่อมต่อระหว่างจุดหมายปลายทางต่าง ๆ
วางแผนสนับสนุน Net Zero ปี 2050
บางกอกแอร์เวย์ส มีความมุ่งมั่นจะร่วมจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภาคการบิน โดยปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินโครงการการวางแผนใช้น้ำมันอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอยู่ระหว่างศึกษาการใช้น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) (SAF) หรือน้ำมันที่เหลือใช้จากอาหารทอดในครัวเรือน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินลงได้ โดยวางแผนจะก้าวเข้าสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission หรือคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2050
ส่วนระดับนานาชาติ จะเข้าร่วมโครงการ Carbon offsetting and Reduction Scheme for International Aviation (CORSIA) ของ ICAO เพื่อสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายการรักษาระดับปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิของภาคการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ด้านนายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 12,742.1 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 124.8 ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารร้อยละ 609.8 รายได้จากธุรกิจสนามบินร้อยละ 465.4 รายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินร้อยละ 71.6 จากการกลับมาปฏิบัติการบินของสายการบินต่าง ๆ
บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 889.3 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปี 2564 จำนวน 1,643.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 64.9
ในปี 2565 บริษัทฯ ย่อยของบริษัทฯในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ได้จัดตั้งกองทรัสต์และนำทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ (BA Airport Real Estate Investment Trust: BAREIT) ซึ่งเป็นกองทรัสต์ธุรกิจสนามบินกองแรกของประเทศไทย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 14 กันยายน 2565 โดยมีมูลค่าการระดมทุน 14,300 ล้านบาท
ในปี 2565 ที่ผ่านมาสนามบินสมุยมีแนวโน้มของปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น โดยมียอดขนส่งผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านคน และมีจำนวนเที่ยวบินใช้บริการรวมทั้งสิ้นกว่า 15,000 เที่ยวบิน เพิ่มสูงขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2564
ถึงแม้ว่าจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่เทียบเท่ากับช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เป็นสัญญาณดีที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย
ด้านความคืบหน้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA ผู้รับสัมปทานโครงพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านการออกแบบวางแผนงาน และการจัดสรรบุคลากร ตลอดจนถึงการเตรียมงานด้านการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมได้อย่างทันท่วงทีเมื่อได้รับการลงนามในสัญญาด้านการส่งมอบพื้นที่สำหรับการก่อสร้างในอนาคต
เน้นกลยุทธ์สร้างตลาดด้วยสีสัน (Color Marketing)
สำหรับปี 2566 นี้ นายคมกริช งามวงศ์วิโรจน์ ผู้อำนวยการแผนกลูกค้ารายใหญ่และผลิตภัณฑ์รายได้เสริม คาดการณ์ว่าสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อและพร้อมเดินทางจะกลับมาโดยจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณ 60 % ของรายได้ทั้งหมด
จากช่องทางการจัดจำหน่ายผ่าน BSP agents ในตลาดหลักอาทิ ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน แอฟริกาใต้ และอีกกว่า 20 ตลาดทั่วโลก รวมถึงการขายผ่านเครือข่ายสายการบินพันธมิตรอีกกว่า 100 สายทั่วโลก และอีกช่องทางหนึ่งที่เรามุ่งเน้นในปีนี้คือช่องทางกลุ่มตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก
ขณะที่แผนขยายการขายเชิงรุกในตลาดต่างประเทศ มีการแต่งตั้งตัวแทนขายและการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 12 สำนักงาน รวมเป็น 41 สำนักงาน โดยเป็นการเปิดสำนักงานในประเทศกลุ่มนอดิกส์หรือสแกนดิเนเวีย และกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ และแต่งตั้งตัวแทนขายและการตลาดในกลุ่มประเทศเยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศฮ่องกง และออสเตรเลีย
สำหรับการขายในตลาดในประเทศ บริษัทฯ วางกลยุทธ์การออกโปรโมชันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในช่วงเทศกาล การส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการขายสินค้า บริการของพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆเสริมให้มากขึ้น ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้โดยสาร เช่นประกันการเดินทาง รถเช่า โรงแรม หรือการขายล่วงหน้า ให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางกับสายการบินของเรา
ด้านแผนการตลาด บริษัทฯ มุ่งเน้นการนำกลยุทธ์สร้างตลาดด้วยสีสัน (Color Marketing) โดยจะทำการสื่อสารผ่านแนวคิด “สีฟ้าคือสีแห่งความสุข” ที่นำเอกลักษณ์จากสีของบางกอกแอร์เวย์ส มาสื่อสารเพื่อสร้างการจดจำภาพแห่งความสุขในการเดินทางกับสายการบินฯ ตั้งแต่บริการผ่านพนักงานคอลเซ็นเตอร์ การเลือกจองที่นั่ง บริการห้องรับรองผู้โดยสาร จนถึงจุดหมายปลายทาง
โดยมี “ญาญ่า อุรัสยา” เป็นพรีเซนเตอร์ ที่มีสไตล์เฉพาะตัว มีความเป็นมิตร การสื่อสารที่จริงใจ สามารถแบ่งปันความสุขให้กับทุกคนในทุกครั้งที่พบเจอและกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้จะมุ่งเน้นทำให้แบรนด์บางกอกแอร์เวย์ส เป็นที่จดจำอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส