Seagate ผู้ผลิตอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ตกลงยินยอมจ่ายค่าปรับ 300 ล้านเหรียญ (ประมาณ 10,300 ล้านบาท) จากกรณีส่งออกฮาร์ดดิสก์มูลค่ากว่า 1,100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 37,800 ล้านบาท) ให้ Huawei นับเป็นการละเมิดข้อกำหนดการควบคุมการส่งออก ซึ่งสำนักอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) ระบุว่า Seagate ได้ส่งออกฮาร์ดดิสก์จำนวน 7.4 ล้านชิ้นแก่ Huawei ในระหว่างเดือนสิงหาคม 2020 ถึง กันยายน 2021 โดยไม่มีใบอนุญาต
ค่าปรับจำนวน 300 ล้านเหรียญครั้งนี้นับเป็นการจ่ายค่าปรับมูลค่าสูงที่สุดจาก BIS ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา และคิดเป็นเงินมูลค่ามากกว่าเท่าตัวของกำไรที่ Seagate ได้จากการขายฮาร์ดดิสก์เหล่านี้
Huawei ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อแบล็กลิสต์ของบัญชีการค้าสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019 จากความกังวลว่า เทคโนโลยีสื่อสารของบริษัทจะช่วยให้รัฐบาลจีนสามารถสอดแนมเครือข่ายอเมริกาได้ หลังจากนั้นในปี 2020 BIS ก็ได้กำหนดให้ผู้ขายสินค้าจะต้องมีใบอนุญาตสำหรับสินค้าที่สร้างด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่จะขายให้กับ Huawei แต่ Seagate กลับอ้างว่า ฮาร์ดดิสก์ไม่นับรวมอยู่ในข้อจำกัดของ BIS และยังคงทำธุรกิจกับ Huawei จนกลายเป็นบริษัทหนึ่งเดียวที่ขายฮาร์ดดิสก์ให้กับ Huawei
ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้จะทำให้ Seagate ต้องจ่ายเงินค่าปรับจำนวนสูงถึง 300 ล้านเหรียญ โดยจะจ่ายเป็นงวดรายไตรมาสจำนวน 15 ล้านเหรียญต่อไตรมาส (515 ล้านบาท) เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มต้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2023 และหาก Seagate ไม่จ่ายค่าปรับตามข้อตกลง บริษัทก็จะถูกสั่งห้ามส่งออกสินค้า
ที่มา: The Verge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส