กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวตักรรม (สกสว.) ได้มอบเงินทุน 1,000 ล้านบาท แก่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในโครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ เพื่อจับค่รูะหว่างธุรกิจสตาร์ทอัปที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ กับ SMEs ในเครือข่าย ของ ส.อ.ท. เพื่อยกระดับความสามารถของ SMEs ให้แข่งขันในตลาดได้มากขึ้น
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัปรุ่นใหม่ที่มีทักษะความรู้ ความสามารถ และมีฝีมือด้านเทคโนโลยีให้เติบโตได้ภายในประเทศ และสามารถก้าวไปแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ ผ่านการเชื่อมต่อธุรกิจสตาร์ทอัปที่มีนวัตกรรมเข้ากับ SMEs ภาคอุตสาหกรรมในเครือข่ายสมาชิกของเราที่ต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับนโยบาย ONE FTI ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ประกอบไปด้วย 1 Vision, 1 Team, 1 Goal กล่าวคือขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กันทุกส่วน ในวาระปี 2565-2567 นี้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ธุรกิจขนาดเล็กอย่าง SME จะโดนผลกระทบมากที่สุด แต่การจะทำให้ SMEs อยู่รอดต่อไปได้นั้น จะต้องติดอาวุธให้กับเขา การนำนวัตกรรมมาช่วยเสริมจะช่วยให้สตาร์ปอัป และ SMEs เติบโตไปพร้อมกันได้
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า โครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สตาร์ทอัปไทย ได้มีโอกาสเข้าถึงตลาด โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยให้ไปถึงระดับโลกได้ด้วย
ทั้งนี้ในปัจจุบัน ภาคธุรกิจ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม มีบทบาทต่อการพัฒนา วิจัย และนวัตกรรมมาก เพราะว่าคนในวงการมักจะรู้ว่าต้องพัฒนาในด้านไหน และรู้ด้านไหนมากกว่าคนภายในกระทรวงฯ เอง ซึ่งความก้าวหน้าของภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมานั้น จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของประเทศด้วย ดังนั้นทาง อว. จึงพร้อมช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมให้มาร่วมกันสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปพร้อมกันด้วย
ในงานเปิดตัวนี้ คุณหนุ่ย – พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ได้รับเกียรติเป็นพิธีกรภายในงานเปิดตัวโครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ ครั้งนี้ด้วย
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร. ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวเสริมว่า โครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ เป็นทั้งโอกาส และความท้าทายใหม่ และได้ใช้ทั้งหลักการทางการธุรกิจ และการตลาด เพื่อสนับสนุนด้านเงินทุนให้แก่สตาร์ทอัป และ SMEs ในเครือ ส.อ.ท. โดยเน้นเป้าหมายที่การนำเทคโนโลยีมายกระดับ SMEs ผ่านโมเดลการดำเนินงานให้ภาคเอกชนเข้าร่วมทุนกับภาครัฐ ทั้งแผนการลงทุน แผนการดำเนินโครงการ การจัดเตรียมกรอบและแผนการเบิกจ่ายเงินตามกรอบวงเงินที่แจ้งมาก และพยายามหา SMEs ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีของสตาร์ทอัปด้วย
ทั้งนี้ เป้าหมายไปที่การสนับสนุนเงินทุนนี้ คือการนำเทคโนโลยีของสตาร์ทอัปมายกระดับภาคอุตสาหกรรม SMEs อย่างน้อย 5 โครงการในปี2566 ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของสตาร์ทอัปและ SMEs เข้าสู่การได้รับเงินสนับสนุนในรอบถัดไปอย่างน้อย 3 โครงการ และผลักดันโครงการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมองค์รวมตามแนวทาง BCG ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลักคือเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy), เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) รวมถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ไปพร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรม แห่งอนาคต (S-Curve) อย่างน้อย 2 โครงการ
ภายในงาน ยังได้มีการจัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับบริษัทซียูเอ็นเตอร์ไพร์สจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำร่องที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อเริ่มดำเนินการความร่วมมือนี้แล้วด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการออกบูธจากหลากหลายหน่วยงาน ที่มาร่วมจัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้และยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยอีกด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส