สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายเวดัต อิชิคาน (Vedat Isikhan) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของตุรกี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะมีการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำรายเดือน 34% ขึ้นสู่ระดับ 483 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 16,000 บาท
การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้นับเป็นหนที่ 2 แล้วของปี 2023 และเป็นความพยายามของรัฐบาลตุรกีในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้พุ่งสูงกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่ 5% และแตะจุดสูงสุดในรอบ 24 ปีที่ 85.5% ในเดือนตุลาคม ปี 2022 ส่งผลให้รัฐบาลตุรกีจำเป็นต้องปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำถึง 100% ในปีที่ผ่านมา
อัตราเงินเฟ้อของตุรกีลดลงเหลือ 39.6% ในเดือนพฤษภาคม ปี 2023 เนื่องจากรัฐบาลได้เข้ามาอุดหนุนค่าก๊าซธรรมชาติให้กับประชาชน เพื่อชดเชยราคาของสินค้าอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น
วิกฤตค่าครองชีพในตุรกี มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากนโยบายกดดอกเบี้ยของประธานาธิบดีเรจิบ เทยิบ เออร์โดวาน (Recep Tayyip Erdogan) ผู้นำตุรกี ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต ซึ่งเป็นวิธีการที่สวนทางกับคำแนะนำของนักเศรษฐศาสตร์ที่ระบุว่า ควรเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อรับมือปัญหาเงินเฟ้อมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเออร์โดวานชนะการเลือกตั้ง ท่าทีของเขาที่มีต่อนโยบายดอกเบี้ยนั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยได้แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คือ นายเมห์เมต ชิมเชก (Mehmet Simsek) และผู้ว่าการธนาคารกลาง คือ นางสาวฮาฟิซ เกย์ เออร์กาน (Hafize Gaye Erkan)
ทั้งนี้ ธนาคารกลางตุรกีมีกำหนดประชุมในวันที่ 22 มิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 20% จากปัจจุบันที่ 8.50%
ที่มา : Yahoo Finance
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส