สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ตำรวจไต้หวันกำลังดำเนินการสืบสวนกรณีการวางยาเด็กปฐมวัยในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งบนเกาะไต้หวัน ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความตระหนกตกใจให้กับผู้ปกครองอย่างมาก และเป็นชนวนให้หลายครอบครัวออกมาประท้วงที่ด้านหน้าสถานที่ราชการ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ และเร่งรัดการสืบสวนให้กระจ่างโดยเร็ว
รายงานข่าวระบุว่า ครูหลายคนของโรงเรียนอนุบาลในนครนิวไทเปของไต้หวันถูกกล่าวหาว่า วางยาระงับประสาทเด็กอนุบาล ด้วยการให้เด็ก ๆ กินยาแก้ไอชนิดน้ำที่มีส่วนผสมของฟีโนบาร์บิทัล (Phenobarbital) และเบนโซไดอะซีพีน (Benzodiazepines) ซึ่งทั้งสองล้วนเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง
ผู้ปกครองของเด็กอนุบาลวัย 5 ขวบ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า ครูในโรงเรียนอนุบาลเอา “ยาที่ไม่รู้จัก” ให้ลูกของเขากิน โดยเขาและครอบครัวสังเกตว่าลูกมีอาการผิดแปลกไปในช่วงวันหยุดยาวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย กรีดร้องตอนนอนหลับ และบางครั้งถึงกับร้องไห้ด้วยอาการตะคริวที่ขา
หลังจากนั้นผู้ปกครองหลายครอบครัวได้รวมตัวกันเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยพวกเขาพบว่า เรื่องหนึ่งที่เด็ก ๆ พูดเหมือนกัน คือ ครูเอายาที่ไม่รู้จักให้กิน ส่งผลให้กลุ่มผู้ปกครองทยอยเข้าแจ้งความต่อตำรวจไต้หวันตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยจำนวนของผู้ปกครองที่เข้าแจ้งความนั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดือนมิถุนายน ตำรวจไต้หวันจึงเริ่มดำเนินการสืบสวน และพบเด็กอย่างน้อย 8 คน มีปริมาณสารฟีโนบาร์บิทัลและเบนโซไดอะซีพีนจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในนครนิวไทเปถูกสั่งปิดในวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา และกรรมการบริหารของโรงเรียนถูกสั่งปรับเป็นเงิน 150,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 168,000 บาท
จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น และตำรวจไต้หวันก็ดำเนินการสืบสวนมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า ทำไมเด็ก ๆ ถึงถูกป้อนยาแก้ไอที่มีส่วนผสมซึ่งทำให้เกิดการเสพติด ส่งผลให้ครอบครัวชาวไต้หวันรายร้อยคนออกมาประท้วงที่ด้านหน้าสถานที่ราชการ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดการสืบสวน และเร่งเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซียังรายงานอีกว่า วานนี้ (19 มิ.ย. 66) มีอีกกรณีหนึ่งซึ่งคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอนุบาลในนครนิวไทเป แต่หนนี้เกี่ยวข้องกับแพทย์ในเมืองเกาสง ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะไต้หวัน
โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ระบุว่า พบแพทย์ 4 คน มีความผิดฐานประพฤติมิชอบและใช้ยาฟีโนบาร์บิทัลผิดวัตถุประสงค์กับเด็กประมาณ 20 คน ซึ่งต่อมามีคำสั่งให้แพทย์กลุ่มนี้ทั้งหมดงดปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 6 เดือน และต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท
จากเหตุการณ์ทั้งสองครั้ง ส่งผลให้คลื่นความกลัวแพร่กระจายไปทั่วเกาะไต้หวัน ในขณะที่โรงพยาบาลเมืองไทเปเริ่มให้บริการตรวจเลือดฟรีสำหรับเด็กปฐมวัย เพื่อตรวจหาร่องรอยของยาระงับประสาท ทั้งนี้ เภสัชกรชาวไต้หวันกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้จะพบได้ยาก แต่ยาแก้ไอและยาโรคทางเดินอาหารบางชนิดก็มีสารฟีโนบาร์บิทัล
ทั้งนี้ การใช้งานฟีโนบาร์บิทัล ส่วนใหญ่แล้วมักใช้เพื่อรักษาโรคลมบ้าหมูและใช้เป็นยาสลบเพื่อการผ่าตัด ซึ่งหาซื้อได้ยาก ในขณะที่สารเบนโซไดอะซีพีนเป็นกลุ่มยาซึมเศร้าที่ใช้กันมากที่สุด เพื่อรักษาความวิตกกังวลอย่างรุนแรง โดยยาทั้งสองชนิดนี้ทำให้เสพติดได้ง่าย และหากมีการใช้ยาเกินขนาดจะทำให้เกิดอาการง่วงนอนและหายใจถี่
ที่มา : BBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส