โอเชียนเกต (OceanGate) เจ้าของเรือดำน้ำไททันและผู้จัดทัวร์พาชมซากไททานิค ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ ผ่านเฟซบุ๊กหลังมีการยืนยันหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯ ว่า เรือดำน้ำไททันระเบิดและเชื่อว่าผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 5 เสียชีวิตแล้วทั้งหมด พร้อมระบุว่า นี่เป็นช่วงเวลาอันเศร้าโศกของบรรดานักสำรวจใต้สมุทร และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมภารกิจค้นหาเรือดำน้ำไททัน
การเดินทางครั้งนี้ประกอบด้วย 1 ลูกเรือ (คนขับ) และ 4 นักเดินทาง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อหัวราว 8,700,000 บาท (250,000 ดอลลาร์/คน) ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม
กัปตันเรือ
สต็อคตัน รัช (Stockton Rush) CEO และผู้ก่อตั้ง OceanGate นอกจากจะเป็นกัปตันขับเรือครั้งนี้แล้ว รัช ยังเป็นผู้ดูแลกลยุทธ์ทางการเงินและวิศวกรรมของ OceanGate ด้วย รัชศึกษาด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton) และจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (California, Berkeley) เขาเคยเขียนบทความด้านวิศวกรรมจำนวนมากเกี่ยวกับยานยนต์ใต้น้ำที่มีลูกเรือในการปฏิบัติการใต้ทะเลด้วย

2 พ่อลูกนักสำรวจ
ชาห์ซาดา ดาวูด (Shahzada Dawood) นักธุรกิจชาวปากีสถาน ซึ่งเป็นรองประธานบริษัท Engro Corporation ซึ่งประกอบธุรกิจด้านผลิตปุ๋ยเคมี อาหารและพลังงาน รวมทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท Dawood Hercules Corporation ด้วย ชาห์ซาดาเกิดในปากีสถาน แต่ย้ายมาอยู่ในสหราชอาณาจักร เขาได้มาศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยบักกิงแฮม
ส่วน สุเลมาน ดาวูด (Suleman Dawood) เป็นลูกชายของชาห์ซาดา อยู่ระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัย และมีความหลงใหลในวรรณกรรมนิยายวิทยาศาสตร์

นักวิจัยไททานิค
พอล อองรี นาร์โกเล็ต (Paul-Henri Nargeolet) ถูกรู้จักในชื่อ PH นักประดาน้ำและนักวิจัยไททานิค เขาเป็นถึงผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยใต้น้ำของ RMS Titanic Inc. มีรายงานว่าบริษัทของนาร์โกเล็ตเคยนำคณะสำรวจไปยังไซต์ไททานิคถึง 6 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกืดขึ้นเมื่อปี 2010

มหาเศรษฐีผู้หลงไหลไททานิก
ฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) วัย 58 ปี นักท่องเที่ยวระดับมหาเศรษฐีพันล้านที่ต้องการลงไปเห็นความงามของซากเรือไททานิคที่จมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อ 111 ปีที่แล้ว ฮาร์ดิง เคยบังคับเรือดำน้ำลงสู่จุดที่ลึกสุดของก้นสมุทรมาเรียนา (Mariana Trench) ในระดับความลึก 10,930 เมตร นานกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้เขาถูกบันทึกสถิติโลกใน World Guinness Book Records มาแล้ว
ฮาร์ดิงยังเป็นประธานบริษัทการบินในเครือ Action Group ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ทั้งในกรุงลอนดอน และนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รวมถึงให้บริการนายหน้าโบรกเกอร์จัดซื้อเครื่องบิน และบริการจัดการบริการทางการเงินให้กับสายการบินต่าง ๆ นอกจากนี้เขายังเคยเป็นหนึ่งในผู้โดยสารที่ไปกับยานอวกาศ Blue Origin โครงการท่องอวกาศราคาแพงคู่แข่ง SpaceX เมื่อปี 2022 อีกด้วย

1 คนที่ไม่ได้ไปด้วย
นอกจาก 5 คนที่กล่าวมา ยังมีอีกหนึ่งคนที่จริง ๆ แล้วต้องไปร่วมคณะทัวร์ครั้งนี้แต่เขากลับยอมทิ้งตั๋วไป หลังรู้สึกว่า เรือไททันไม่ปลอดภัย คริส บราวน์ (Chris Brown) เพื่อนของฮามิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) เปิดเผยว่า เขาตัดสินใจยกเลิกการเดินทางลงไปสำรวจซากเรือไททานิคกับเรือดำน้ำไททัน เนื่องจากเป็นกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของเรือลำนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเรือ เช่น พวงมาลัยที่ทำจากอุปกรณ์วิดีโอเกม ไฟในเรือที่หาได้ตามร้านขายของประดิดประดอยต่าง ๆ แนว DIY หรืออับเฉาเรือที่ทำจากท่อในงานอุตสาหกรรม และภายในที่เล็กคับแคบ อึดอัด เห็นแล้วไม่สบายใจจึงยกเลิกทริปที่จองไว้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส