รัฐบาลเวลส์ ออกมาตรการควบคุมอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและการจัดโปรโมชันอาหารชุดของซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล หรือเกลือสูง เพื่อช่วยจัดการกับวิกฤตโรคอ้วนของประชากรผู้ใหญ่เกือบ 2 ใน 3 ของประเทศ โดยเตรียมออกฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับการส่งเสริมอาหารแปรรูปพิเศษ
ปกติแล้วซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้ามักจะจัดเซตแซนด์วิช เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวด้วยราคาพิเศษ เช่นโปรซื้อ 2 จ่าย 1 โดยกฎใหม่จะพยายามควบคุมแรงกระตุ้นการซื้ออาหารขยะด้วยการขอให้ผู้ค้าปลีกไม่โปรโมตสินค้าบางรายการที่จุดชำระเงิน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะเริ่มใช้ปีหน้า และจะบังคับใช้อย่างเป็นทางการในปี 2025 กับทุกธุรกิจที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป
หน่วยงานสาธารณสุขของเวลส์ ระบุว่า ประชาชน 33% ซื้ออาหารโปรโมชันพิเศษอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่ง 75% ของอาหารเซตพิเศษนี้มีแคลลอรีเกินกว่าร่างกายควรได้รับในมื้อกลางวัน การกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำในมื้อกลางวัน 5 วันต่อสัปดาห์ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 กิโลกรัมต่อปี เมื่อเทียบกับการกินอาหารตามปกติน้ำหนักจะขึ้นเพียง 2.8 กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น
เห็นได้จาก 60% ของประชากรในเวลส์ มีน้ำหนักเกิน และเด็ก 1 ใน 4 คน เป็นโรคอ้วน ภายในอายุ 5 ปี แถมยังมีผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ที่เกิดจากภาวะดื้ออินซูลืนเป็นสถิติสูงสุดด้วย
ที่ผ่านมาอังกฤษ เคยมีมาตรการแบนอาหารลักษณะนี้แล้วเช่นกัน แต่ถูกเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากริชชี ซูนัก นายกรัฐมนตรี มองว่ามันไม่ยุติธรรม ที่จะห้ามจัดโปรโมชันในขณะที่ราคาอาหารยังพุ่งสูงอยู่ ส่วนที่สกอตแลนด์ ได้ระงับร่างกฎหมายจำกัดโปรโมชันสำหรับอาหารขยะ ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 เนื่องจากโควิด-19 แพร่ระบาด
ที่มา : Theguardian
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส