ต้องยอมรับว่าประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ต่างพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะความหวังในการฟื้นตัวหลังผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ความหวังของอาเซียนกำลังริบหรี่ลง เมื่อชาวจีนของดเที่ยวต่างประเทศ หลังเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในเดือนพฤษภาคม ปี 2023 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน 5 ประเทศอาเซียนอยู่ที่ระหว่าง 14 – 39% เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 หรือก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นผลจากความลังเลใจของชาวจีนที่จะใช้เงินไปกับการเดินทางเยือนต่างประเทศ
สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ได้ประโยชน์จากอุปสงค์การเดินทางที่ฟื้นตัวขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จบลง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนของไทยกลับมีแนวโน้มจะต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการที่ 7 ล้านรายในปี 2023 โดยคาดว่าจะพลาดเป้าหมายไปประมาณ 2 ล้านราย
ทั่วทั้งอาเซียนล้วนได้รับผลกระทบที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย โดยบาฮานา เซคูริทาส (Bahana Sekuritas) บริษัทหลักทรัพย์อินโดนีเซีย ระบุว่า เกาะบาหลี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในอินโดนีเซีย ต้องเผชิญกับอุปสงค์โรงแรมหรูที่ลดลงในช่วงเดือนมกราคาถึงพฤษภาคม
ขณะเดียวกัน สิงคโปร์ก็ต้องพบกับตัวเลขที่น่าผิดหวัง โดยข้อมูลจากคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ปี 2023 อยู่ที่ 310,901 คนเท่านั้น ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 สิงคโปร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 1.55 ล้านคน
แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะถือเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ในการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวทั้งในตลาดอาเซียนและประเทศญี่ปุ่น แต่การห่างหายไปของนักท่องเที่ยวจากแดนมังกรนี้ กลับทำให้ญี่ปุ่นค้นพบกลุ่มนักช้อปกลุ่มใหม่ โดยในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ปี 2023 ยอดขายสินค้าจากนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวจีน เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 70% ของยอดขายสินค้าจากนักท่องเที่ยวทั้งหมด ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อปี 2019 ยอดขายดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 20% เท่านั้น
ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าไม่ใช่อุปสรรคเดียวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะว่าจำนวนเที่ยวบินระหว่างจีนและภูมิภาคต่าง ๆ ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนเกิดโรคระบาด และมีการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดสิงคโปร์ที่ถือว่า “อยู่ห่างไกล” จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
แม้ว่าจะมีอุปสรรคมาก แต่นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันยังคงมองแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ค่อนข้างดี โดยนักวิเคราะห์ของ OCBC ธนาคารจากประเทศสิงคโปร์คาดการณ์ว่า สภาพเศรษฐกิจจีนในตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ชาวจีนจะเดินทางออกมาท่องเที่ยวนอกประเทศ แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะกลับมาอีกครั้ง และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนจำเป็นต้องแข่งขันกันเองมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาท่องเที่ยวในประเทศของตน
ที่มา : The Straits Times
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส