นางสาว ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลกเลือกประเทศไทยเป็นโลเคชันในการถ่ายทำ
โดยมาตรการล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุง คือการเพิ่มอัตราการคืนเงิน หรือ Cash Rebate จากเดิมร้อยละ 15 – 20 เป็นร้อยละ 20 – 30 เป็นเวลา 2 ปี และเพิ่มเพดานการคืนเงินจากเดิม 75 ล้านบาทต่อเรื่อง เป็น 150 ล้านบาทต่อเรื่อง ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่า มาตรการที่ปรับปรุงล่าสุดนี้ สามารถแข่งขันกับอีกหลายประเทศที่มีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลเตรียมออกมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นักแสดงชาวต่างชาติเป็นเวลา 5 ปี (เฉพาะนักแสดงของภาพยนตร์ ซึ่งดำเนินการสร้างโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ) ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ดึงดูดผู้ผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการโทรทัศน์ให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมเปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 27 พฤษภาคม 2566 ณ ประเทศฝรั่งเศส มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมบูธของประเทศไทยจำนวนมาก โดยมีผู้ผลิตภาพยนตร์ที่สนใจและมีแผนที่จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยจำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดีย และออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท
สำหรับมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ นอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุน และการจ้างงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยแล้ว ยังส่งผลโดยอ้อมต่อการท่องเที่ยวไทย เช่น ซีรีส์ King the Land ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งได้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย และปรากฎสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศ กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ได้รับชมซีรีส์เรื่องนี้ ปลุกกระแสเที่ยวไทยฟีเวอร์ รวมถึงทำให้คนไทยรู้สึกภูมิใจในประเทศของตนเอง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส