สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการเลือกตั้งในสเปนเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ว่า พรรคฝ่ายค้านขวากลางเฉือนชนะพรรครัฐบาลฝ่ายซ้าย แต่อาจตั้งรัฐบาลไม่ได้เนื่องจากได้คะแนนเสียงไม่มากพอที่จะผลักนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ลงจากอำนาจ
ทั้งสองพรรคจะพยายามเจรจากับพรรคอื่น ๆ เพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่นักวิเคราะห์มองว่าสุดท้ายแล้วสเปนอาจได้รัฐสภาที่ไม่มีพรรคใดมีเสียงข้างมากและต้องลงเอยด้วยการจัดเลือกตั้งใหม่
ผลคะแนนโหวตหลังนับครบ 100% เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันที่ 24 ก.ค. ตามเวลาไทย ผลปรากฏว่าพรรคประชาชน (PP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านขวากลางได้ 136 ที่นั่งในสภา ขณะที่พรรคสังคมนิยม (PSOE) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลฝ่ายซ้ายของนายกฯ ซานเชซ ได้ 122 ที่นั่ง
รัฐสภาสเปนมีทั้งหมด 350 ที่นั่ง โดยพรรคที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาที่ 176 ที่นั่ง จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ มีการคาดคะเนจากนักวิเคราะห์ว่าพรรคประชาชน (PP) พรรคฝ่ายค้านอุดมการณ์กลาง – ขวา (อนุรักษ์ นิยม) ของอัลเบอร์โต นูเนซ เฟโฮ วัย 61 ปี จะมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 แต่ก็อาจจะยังไม่มากพอถึงขั้นจะเป็นเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้อาจต้องไป จับขั้วกับพรรคว็อกซ์ (Vox) พรรคอนุรักษ์นิยมขวาจัด ที่ได้คะแนนเสียง 33 ที่นั่งและอาจทำให้สเปนได้รัฐบาลที่มีพรรคขวาจัดเข้ามาเกี่ยวข้องในการบริหารประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสมัยผู้นำเผด็จการ “นายพลฟรังโก” เมื่อปี 2518
ด้านบริษัทที่ปรึกษาเทนีโอวิเคราะห์ว่า นายกฯ ซานเชซมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลผสมสูงกว่าผู้นำพรรค PP อย่าง อัลเบอร์โต นูเนซ เฟโฮ โดยมีความน่าจะเป็นอยู่ที่ 45% ที่นายกฯ ซานเชซจะเจรจาตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคซูมาร์และพรรคเล็กอื่น ๆ อย่างไรก็ดี เทนีโอมองว่ามีความเป็นไปได้ 45% เช่นกันที่จะมีการจัดเลือกตั้งใหม่
แม้ขั้นตอนการแต่งตั้งนายกฯ ดังกล่าวจะไม่ได้มีกำหนดเส้นตายไว้ในกฎหมายสเปน แต่หากไม่มีแคนดิเดตคนใดได้เสียงข้างมากภายใน 2 เดือนนับจากการลงคะแนนเลือกนายกฯ ครั้งแรก กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส