ธนาคารกลางของคิวบาห้ามบริษัทของรัฐและเอกชน ใช้ตู้เอทีเอ็ม รวมถึงจำกัดการทำธุรกรรมเงินสดระหว่างกัน เนื่องจากพยายามจะควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง
กฎระเบียบใหม่มีผลบังคับใช้ในคิวบา ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2566 โดยจะจำกัดการทำธุรกรรมเงินสดไว้ที่ 5,000 เปโซ (3,120 บาท) และจะค่อย ๆ ดำเนินการในระยะเวลา 6 เดือน เพื่อส่งเสริมการใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แทน และแก้ปัญหาการขาดเงินสดในตู้เอทีเอ็มบางตู้ด้วย
เจ้าหน้าที่รัฐกำลังพยายามควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นไปแตะ 45% แล้วในปีนี้ และควบคุมการปรับลดค่าเงินเปโซ โดยการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมระบบการธนาคารในประเทศ และสนับสนุนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แถลงการณ์จากทางการระบุ
อเลฮานโดร กิล (Alejandro Gil) รัฐมนตรีเศรษฐกิจคิวบา ระบุว่า แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเพิ่มขึ้น 1.8% ในช่วงครึ่งปีแรก แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2562 อยู่ 8% ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค เชื้อเพลิง และสินค้าพื้นฐานอื่น ๆ พอสินค้าเริ่มกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งจึงมีการต่อคิวซื้อที่ยาวเหยียด
วิกฤติครั้งนี้ ยังนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นในระบบธนาคารของรัฐ ส่งผลให้ตู้เอทีเอ็มบางแห่งขาดเงินสดสำหรับให้บริการ ปล่อยให้ประชาชนต้องประสบกับความยากลำบากในการเบิกถอนเงินสดไปใช้จับจ่ายซื้อของต่าง ๆ
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส