ยอดผู้เสียชีวิตจากการเกิดไฟป่าในเขตเมาวี (Maui) ของรัฐฮาวาย เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53 รายแล้ว หลังจากเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ 3 จุด ในเขตเมาวี ตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางการระบุว่า ไฟป่าในจุดที่ใกล้กับเมืองลาฮาอินา ถูกควบคุมได้แล้วร้อยละ 80 และทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีความคืบหน้าในการพยายามควบคุมไฟป่าอีก 2 จุดที่เหลือ
ทั้งนี้ เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนหลายพันคนไม่มีที่อยู่อาศัย ขณะที่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตเมาวีเกือบ 11,000 คน ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
ด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่ง ประกาศให้รัฐฮาวาย “เป็นพื้นที่ภัยพิบัติครั้งใหญ่” จากไฟป่า เพื่อระดมความช่วยเหลือจากส่วนกลางคือ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินส่วนกลาง (ฟีมา) เข้าสู่พื้นที่ประสบภัย
ไฟป่าที่เขตเมาวีของรัฐฮาวาย เป็นผลจากสภาพอากาศที่กำลังร้อนอยู่แล้ว และอิทธิพลของกระแสลมแรงจากเฮอริเคน ‘ดอรา’ ที่แม้เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเกาะฮาวายหลายร้อยกิโลเมตร และผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไปในทางเดียวกัน ว่าพายุจะไม่เคลื่อนตัวพาดผ่านเกาะฮาวาย แต่ส่งผลให้เกิดไฟป่าโหมกระหน่ำ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ และลุกลามเข้าสู่เมืองลาไฮนา (Lahaina) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองตากอากาศ แล้วเผาทำลายทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง
กองทัพเรือและหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ร่วมสนับสนุนภารกิจดับไฟป่า และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งรัฐฮาวาย ระดมสรรพกำลังควบคุมสถานการณ์ และทุกฝ่ายคาดการณ์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก อย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : CNN
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส