เศรษฐา ทวีสิน (ชื่อเล่น นิด) เกิดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เศรษฐาเป็นอดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ‘แสนสิริ’ ซึ่งเขานับเป็นคนที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในด้านอสังหาฯ แต่เมื่อช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา เศรษฐาได้โอนหุ้น SIRI ทั้งหมดให้กับลูกสาวตัวเองและประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในแสนสิริ เพื่อมาลงเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว ก่อนจะถูกโหวตเลือกให้เป็น (ว่าที่) นายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 30

ประวัติส่วนตัว

เศรษฐา ทวีสิน เป็นลูกคนเดียวของ ร้อยเอกอำนวย ทวีสิน และ ชดช้อย ทวีสิน ทว่า บิดาของเศรษฐาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังอายุได้เพียง 3 ขวบ ด้านชีวิตครอบครัว เขาสมรสกับแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน (นามสกุลเดิม ปลัดรักษา) ปัจจุบันเธอเป็นแพทย์ประจำศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife) มีบุตรด้วยกัน 3 คน ได้แก่

  1. น้อบ – ณภัทร ทวีสิน
  2. แน้บ – วรัตม์ ทวีสิน
  3. นุ้บ – ชนัญดา ทวีสิน

ประวัติด้านการศึกษา

  • ระดับประถมศึกษา – โรงเรียนสาธิต มศว. ประสานมิตร
  • ระดับมัธยมศึกษาหรือไฮสคูล ที่สหรัฐอเมริกา
  • ระดับปริญญาตรี – สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์
  • ระดับปริญญาโท – สาขาบริหารธุรกิจด้านการเงิน มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์

ประวัติด้านการทำงาน

หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทในปี พ.ศ. 2529 เขาเดินทางกลับมาทำงานที่ประเทศไทยในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่บริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (Procter & Gamble) ประมาณ 4 ปี ก่อนจะกระโดดไปทำด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับ อภิชาติ จูตระกูล (ญาติ) ภายใต้ชื่อ บริษัท แสนสำราญ จำกัด ซึ่งต่อมาจะถูกเปลี่ยนชื่อให้เป็นบริษัท ‘แสนสิริ’ โดยมีเศรษฐาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ภายใต้การบริหารของเศรษฐา ทำให้แสนสิริค่อย ๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนแสนสิริสามารถเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัดได้ในปี 2538 อย่างไรก็ตาม ในหลาย ๆ ช่วง บริษัทกลับต้องเจอปัญหาทางเศรษฐกิจมากมาย ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ที่ทำให้บริษัทต้อง ขายสินทรัพย์เพื่อให้มีทุนหมุนเวียน แต่สุดท้ายก็ก้าวผ่านช่วงเวลานั้นไปได้

นอกจากนี้ เศรษฐายังได้มีการเริ่มต้นโปรเจกต์สำคัญมากมาย อาทิ ปลุกปั้นเยาวชนในโครงการ Sansiri Academy เพื่อฝึกฝนเด็ก ๆ ให้มีทักษะฟุตบอลจนสามารถไปติดทีมชาติได้ รวมถึงร่วมมือกับ UNICEF ในการดูแลและปกป้องเยาวชน หรือการรณรงค์ให้คนหันมาสนใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและ LGBT ทั้งนี้ ยังมีเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม อย่างการประกาศให้แสนสิริเป็นอสังหาฯ ที่รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งเป้าสู่ Net Zero ด้วย

ทว่า เมื่อช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา เศรษฐา ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในแสนสิริ และโอนหุ้น SIRI จำนวน 661 ล้านหุ้น (สัดส่วน 4.44%) ให้กับ ชนัญดา ทวีสิน ลูกสาวของตน เพื่อลงเล่นการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เพราะภายใต้กฎหมายเลือกตั้งไทย เศรษฐาไม่สามารถครอบครองหุ้นในบริษัทใด ๆ ได้

งานด้านการเมือง

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เศรษฐาประกาศผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองว่าเขาได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย จากนั้นจึงได้เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของพรรค และได้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย พร้อมกับแพทองธาร ชินวัตร และชัยเกษม นิติสิริ จนสุดท้ายก็เป็นเศรษฐาที่ได้เข้าชิงตำแหน่งและได้ถูกโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส