เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา โตเกียว อิเลกทริก พาวเวอร์ หรือ TEPCO ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะไดอิจิของญี่ปุ่น เริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยทางบริษัทฯ ระบุว่าในขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกวิตกกังวลและโกรธเคือง และทำการต่อว่ารัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เป็นผล ในขณะที่หลายประเทศใกล้เคียง เช่น จีน ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจผ่านการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่น
ล่าสุด เทโคคุ ดาต้าแบงก์ (Teikoku Databank) บริษัทวิจัยตลาดของญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่า ณ ขณะนี้มีผู้ส่งออกอาหารทะเลของญี่ปุ่นมากกว่า 700 รายแล้ว ที่ได้รับผลกระทบจากการที่จีนสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลของญี่ปุ่น ซึ่งจำนวนดังกล่าว คิดเป็น 8% ของบริษัทญี่ปุ่นทั้งหมดที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทส่งออกอาหารทะเลไปยังฮ่องกงอีก 316 รายที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากฮ่องกงได้ประกาศห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 ภูมิภาคของญี่ปุ่นด้วยเหตุผลเรื่องการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีเช่นเดียวกัน
การที่จีนสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นคาดว่าจะเป็นความเสียหายที่ใหญ่หลวง เนื่องจากข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ถูกเปิดเผยระบุว่า ในปี 2022 จีนคือตลาดส่งออกอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีมูลค่า 600 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 21,000 ล้านบาท และรองลงมาคือฮ่องกง ซึ่งยอดขายของทั้งสองพื้นที่รวมกันคิดเป็น 42% ของการส่งอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส