กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และคปภ. ร่วมมือพัฒนาการออกกรมธรรม์ประกันภัยจากการเสริมความงาม 3 ประเภท เพื่อคุ้มครองทั้งผู้รับบริการและแพทย์ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยา จ่ายค่าเสียหาย หากเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการเสริมความงาม
นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เนื่องจากการศัลยกรรมมีหลายรูปแบบ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ต่างกัน นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษา ประกันความงามจึงจะเข้ามาช่วยรองรับผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ
สำหรับประกันดังกล่าว จะครอบคลุมภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงหลังการทำศัลยกรรม โดยผู้เอาประกันต้องซื้อประกันหลังทำศัลยกรรม หากเกิดภาวะแทรกซ้อนภายในระยะ 1 ปี จะได้รับความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) และค่าชดเชยระหว่างนอนอยู่ในโรงพยาบาล โดยกรมธรรม์จะคุ้มครองเรื่องอุบัติเหตุพ่วงเข้าไปด้วย
ส่วนผู้ให้บริการ หากเป็นคลินิกเวชกรรม หรือโรงพยาบาล (รพ.) จะมีกรมธรรม์ความรับผิดวิชาชีพสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านความงาม ซึ่งจะคุ้มครองความรับผิดจากการทำหัตถการความงาม เช่น การทำทรีตเมนต์ การเลเซอร์กำจัดขน การฉีดโบท็อกซ์ การฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังไม่คุ้มครองการทำศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกรมธรรม์ใดคุ้มครองแพทย์ผู้ทำศัลยกรรมตกแต่ง เรื่องนี้ยังต้องรอการหารือร่วมกับภาคธุรกิจต่อไป
สำหรับกรอบอัตราเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 0.51% ซึ่งบริษัทที่จะนำไปใช้จะมีการพิจารณารายละเอียดเพิ่มอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการตลาดของบริษัทประกันภัย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 2-3 บริษัทที่ได้รับอนุมัติแบบกรมธรรม์จากนายทะเบียนไปแล้ว
ส่วนกรณีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมความงาม ที่อาจเกิดจากผู้รับบริการดูแลตนเองไม่ดีพอ จะต้องให้แพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพวินิจฉัยว่า ผลข้างเคียงนั้นเกิดจากการเสริมความงามหรือไม่ ถ้าเกี่ยวเนื่องกัน กรมธรรม์ก็จะต้องให้ความคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส