สื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงยอมรับข้อกล่าวหาเรื่องการสร้างภาพด้วยกีฬา หรือ Sportswashing เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ให้กับประเทศ หลังนักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียอัดฉีดค่าใช้จ่ายมหาศาล เพื่อเพิ่มอิทธิพลในการแข่งขันกอล์ฟ และฟุตบอลรายการใหญ่ระดับนานาชาติ
รายงานข่าวของซีเอ็นบีซีระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ลงทุนในประเภทกีฬาต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลในลีกของประเทศ การดึงตัวนักเตะซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) และเนย์มาร์ (Neymar) ให้ย้ายจากลีกในยุโรปมายังลีกซาอุดีอาระเบีย ซึ่งข้อตกลงในการซื้อตัวนักเตะดาวดังทั้งสองสูงถึง 175 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการดึงตัว ดัสติน จอห์สัน (Dustin Johnson) และไบรสัน เดอชอมโบ (Bryson DeChambeau) นักกอล์ฟชื่อดังให้ออกจากการแข่งขัน PGA Tour และย้ายมายัง LIV Golf ของซาอุดีอาระเบียด้วยค่าตอบแทนมหาศาล ก่อนที่รายการแข่งขันทั้งสองจะถูกควบรวมกันในเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
รัฐบาลซาอุดีอาระเบียดำเนินการสร้างภาพด้วยกีฬาผ่านกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะแห่งซาอุดีอาระเบีย (PIF) ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งนอกเหนือจากการลงทุนในกีฬาแล้ว ยังมีการลงทุนในด้านอื่น ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและความบันเทิง โดยรายงานข่าวของรอยเตอร์สระบุว่า กองทุน PIF มีมูลค่ามากกว่า 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 25 ล้านล้านบาท
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า “ถ้าการสร้างภาพด้วยกีฬาจะทำให้ GDP ของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้น 1% เราก็จะทำสิ่งนี้ต่อไป โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร”
ทั้งนี้ การสร้างภาพด้วยกีฬาของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขชื่อเสียงที่เสื่อมเสียของประเทศ เนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการสังหารนายจามาล คาช็อกกี (Jamal Khashoggi) นักข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อปี 2018 และข้อกล่าวหาจากฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ พบหลักฐานว่าซาอุดีอาระเบียมีความเชื่อมโยงกับเหตุวินาศกรรม 9/11
ที่มา : CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส