สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจและการเมือง หรือ The Economist Intelligence Unit (EIU) ได้เปิดเผยรายงานการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกประจำปี 2023 โดยพบว่า ‘สิงคโปร์’ เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการครองอันดับร่วมกับ ‘ซูริก’ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกประจำปี 2023 ทั้ง 10 อันดับแรก ได้แก่
- สิงคโปร์ และซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (อันดับร่วม)
- เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (อันดับร่วม)
- ฮ่องกง เขตบริหารพิเศษของประเทศจีน
- ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล (อันดับร่วม)
- ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
EIU เปิดเผยว่า การสำรวจข้อมูลในปีนี้พบว่าค่าครองชีพเฉลี่ยทั่วโลกปรับตัวขึ้นราว 7.4% ซึ่งลดลงจากปี 2022 ที่เพิ่มขึ้น 8.1% แต่ยังคงสูงกว่าค่าครองชีพเฉลี่ยระหว่างปี 2017 – 2021 อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากการจัดทำรายงานตลอด 11 ปี EIU พบว่านี่เป็นครั้งที่ 9 แล้วที่ ‘สิงคโปร์’ ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ โดยค่าครองชีพส่วนใหญ่ของประชาชนในเมืองนี้ถูกใช้ไปกับระบบขนส่งสาธารณะ เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมการครอบครองรถยนต์ที่เข้มงวด รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการ เช่น เสื้อผ้า น้ำเปล่า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีราคาแพงที่สุดเช่นเดียวกัน เพราะไม่สามารถผลิตเองได้ภายในประเทศ
ในขณะที่ ‘ซูริก’ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กระโดดขึ้นมาจากอันดับ 6 เมื่อปี 2022 ขึ้นมาครองอันดับ 1 ร่วมกับ ‘สิงคโปร์’ ในปีนี้ ซึ่งค่าครองชีพที่สูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากค่าเงินฟรังก์สวิสที่แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าบริการ และค่ากิจกรรมสันทนาการปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ การสำรวจข้อมูลของ EIU ใช้การเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการมากกว่า 200 ประเภท จาก 173 เมืองทั่วโลก ซึ่งมีข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจพบว่า การเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพในภูมิภาคเอเชียโดยเฉลี่ยยังถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยเมืองที่มีค่าครองชีพลดลงมากที่สุด ได้แก่ 4 เมืองในประเทศจีน คือ หนานจิง อู๋ซี ต้าเหลียน และปักกิ่ง รวมถึง 2 เมืองในญี่ปุ่น ได้แก่ โตเกียวและโอซาก้า
ที่มา : Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส