หลายครั้ง เรามองเรื่องที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องธรรมชาติไป เพราะความเคยชินในสังคม

เคยเป็นไหมคะ เราเห็นคนในครอบครัวเดียวกัน ทำร้ายร่างกาย หรือจิตใจกัน แล้วเรามองว่ามันเป็นเรื่องปกติ หรือมองไปถึงระดับชาติหน่อย หลายคนก็มองว่าเรื่องคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติเช่นกัน

อย่างล่าสุดวันนี้ ขณะที่บีเดินชิลๆ ยามเช้าเพื่อไปทำงานที่บริษัท ตามวิถีชีวิตพนักงานออฟฟิศทั่วไป สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุประมาณ 2-3 ขวบ นั่งขอทานอยู่ตรงทางลง BTS

n12868986-3

ด้วยความที่แวะซื้อขนมไปทานที่ออฟฟิศ แล้วมีเหรียญที่มาจากเงินทอนอยู่หยิบมือหนึ่ง บีเลยตัดสินใจใส่เหรียญในมือลงในแก้วที่วางอยู่ข้างตัวเด็กหญิงขอทานคนนั้น ก่อนมาทำงานตามปกติ

ด้วยความที่วันนี้เกิดตะหงิดใจอะไรขึ้นมา ทำให้นึกถึงเด็กขอทานเล็กๆ หลายคนที่บีเคยหยอดเงินลงไปในแก้วน้ำ ว่าน้องๆ ขอทานพวกนั้น จริงๆแล้ว เขามีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร มีพ่อแม่ หรือผู้ปกครองที่ดูแลอยู่จริงๆ หรือไม่ และน้องขอทานออกมาทำงานเพราะความกตัญญู หรือเพราะความไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสร้างรายได้ หรือที่แย่ไปกว่านั้น น้องๆ ขอทาน อาจถูกลักพาตัว หรือซื้อมา เพื่อมาเป็นขอทาน

พอคิดแบบนี้ บีก็เกิดฉุนตัวเองขึ้นมาหน่อยๆ ว่าที่ผ่านมาเราปล่อยให้ความเคยชิน พาเราละเลยอะไรหลายๆ อย่างไป โดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งที่เราควรจะทำเลย

บีเลยตัดสินใจเสริชๆ google ดูว่า “หากเราเจอ เด็กที่ถูกใช้ให้มาเป็นขอทาน เราจะช่วยน้องๆ ได้อย่างไรบ้าง” และได้ความย่อๆ มาว่า

หากเราพบเจอน้องๆ ที่ถูกจับมาเป็นขอทาน สามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิกระจกเงา หมายเลข  02-973-2236-7 # 104, และ 094-894-7847 หรือศูนย์ประชาบดี หมายเลข 1300

screen-shot-2559-11-24-at-00-02-50

หรือถ้าใครอยากให้สะดวกหน่อย และรู้สึกว่าใกล้ตัวเรามากขึ้น ก็ใช้เวลา 2-3 วินาที ในการเสริชเพจชื่อ “โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา” หรือ URL ที่ https://www.facebook.com/childbegging โดยใช้การส่งข้อความไปในเพจค่ะ ซึ่งบีว่าเป็นช่องทางที่สะดวกขึ้นมาก ที่จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค่ะ

อ้อ ถึงบีจะรู้สึกว่าการแอบถ่ายผู้อื่น เป็นสิ่งไม่ดี แต่การแอบถ่ายรูปน้องๆ ขอทาน แล้วส่งไปที่ทางเพจเพื่อยืนยันว่ามีน้องๆ ขอทาน อยู่ในสถานที่นั้นๆ จริง น่าจะสะดวกต่อการช่วยเหลือน้องๆ ของหน่วยงานต่างๆ มากขึ้น

ยิ่งพอเห็น เรื่องราวที่ทางเพจนำมาแชร์ บียิ่งรู้สึกว่า การช่วยเหลือน้องๆ ที่ถูกนำมาเป็นขอทาน เป็นเรื่องที่สังคมเรา ควรตระหนักอย่างจริงจังแล้วล่ะ

“บางครั้งการช่วยเหลือเด็กขอทานก็อาจต้องเจอเหตุการณ์ที่สร้างความลำบากใจให้กับทีมงานเช่นกันเพราะเด็กขอทานมักมีความรู้สึกว่าตนเองถูกจับมากกว่าจะคิดว่าตนเองได้รับความช่วยเหลือให้ได้ออกจากข้างถนน ครั้งหนึ่งเด็กหญิง อายุประมาณ 5 ปี นั่งร้องไห้มาตลอดทาง และพูดเป็นระยะๆ ว่าถูก “ตำรวจจับ” แม้ตลอดทางเจ้าหน้าที่ทุกคนจะพยายามบอกเด็กว่าไม่ได้มาจับ แต่พวกเรามาช่วยต่างหาก เด็กก็ไม่มีท่าทีจะหยุดร้องไห้แต่อย่างใด

14195445_695299477291733_7769861291973639142_o

กว่าเด็กจะมีความรู้สึกว่าตนเองได้รับการช่วยเหลือก็เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการคัดกรองและส่งเข้าสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯ ซึ่งมีที่พักและเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดีแล้วนั่นเอง

เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้เพราะคนที่พาเด็กมาขอทานย่อมต้องมีการบอกกับเด็กอยู่แล้วว่าต้องระวังเจ้าหน้าที่ของรัฐ อีกทั้งการที่เด็กต้องขอทานตั้งแต่ยังเล็ก ยิ่งทำให้โลกทัศน์ของเด็กแคบและมองว่าการนั่งขอทาน คือ วิธีการหารายได้รูปแบบหนึ่ง

โดยหลงลืมมองถึงอนาคตที่แท้จริงของตนเอง”

อ่านโพสนี้ของทางเพจแล้วรู้สึกสะเทือนใจไปเลยค่ะ เพราะน้องๆ ขอทานเหล่านั้น คงมีชีวิตที่ลำบากมากจริงๆ แถมยังถูกปลูกฝังมาให้มีความคิดผิดๆ ด้วย นั่นหมายความว่า น้องๆ ขอทาน ไม่สามารถหนีออกมาจากจุดนั้นได้เลย หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก

บีคิดว่าเราทุกคนควรจริงจังกับเรื่องนี้แล้วหล่ะ อย่างน้อยก็คลิกไปที่เพจ ChildBegging เวลาที่เห็นน้องๆ ขอทานเหล่านั้น

อย่าลืมนะคะ ปัญหาในสังคมทุกอย่าง ทางแก้เริ่มต้นได้ที่ตัวเราค่ะ