สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า เศรษฐกิจจีนที่กำลังซบเซาในขณะนี้ไม่ได้ทำให้เฉพาะนักศึกษาจบใหม่เท่านั้นที่กำลังหางานทำได้ยากขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนในวัย 30 ปี ก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน และพวกเขายังเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างอีกด้วย
รายงานข่าวระบุว่า นายจ้าว (นามสมมติ) วัย 35 ปี ถูกปฏิเสธการจ้างงานเนื่องจากมีอายุมากเกินไป โดยนายจ้าวระบุว่า ผู้สัมภาษณ์งานแจ้งเขาว่าบริษัทไม่สามารถจ้างเขาได้ในตอนนี้ เนื่องจากพวกเขากำลังมองหาพนักงานที่เกิดหลังปี 1990 เป็นต้นไป
นายจ้าวกล่าวว่า เขามีประสบการณ์การทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์และบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์หลายแห่ง โดยเขาลาออกจากบริษัทเดิมในปี 2023 เนื่องจากต้องการงานใหม่ที่มีรายสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากงานนั้น เป็นเพราะว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนกำลังได้รับประโยชน์จากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต
ทั้งนี้ นายจ้าวกล่าวว่า เขาได้ส่งใบสมัครไปยังบริษัทต่าง ๆ หลายแห่ง แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ กลับมาเลย
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า บริษัทต่าง ๆ ในจีนกำลังประสบปัญหาในการเพิ่มรายได้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องลดต้นทุนด้านแรงงานลง ส่งผลให้นักศึกษาจบใหม่หางานได้ยากขึ้น ขณะเดียวกัน กลุ่มคนในวัย 30 – 40 ปี มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างมากขึ้น และทดแทนด้วยคนวัย 20 ปี เนื่องจากมีค่าจ้างต่ำกว่า
พนักงานของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจีน ซึ่งรับผิดชอบการจ้างงานพยาบาลใหม่ เปิดเผยกับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชียว่า กลุ่มคนในวัย 30 ปีปลาย ๆ มักมีรายจ่ายในครัวเรือนสูง เช่น การดูแลบุตรหลาน ทำให้ในฐานะนายจ้าง โรงพยาบาลจำเป็นต้องกำหนดเพดานอายุในการจ้างงานเอาไว้ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนสวัสดิการให้กับพนักงานได้ โดยเฉพาะการดูแลบุตรหลานของพนักงาน
ทั้งนี้ ผลสำรวจที่เผยแพร่ในเดือนเมษายน ปี 2023 ของบริษัททรัพยากรบุคคลจ้าวผิน (Zhaopin) พบว่า 85% ของพนักงานมีความกังวลว่าจะถูกเลิกจ้างและรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะหางานใหม่ เมื่ออายุเกิน 35 ปี โดยพนักงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต การเงิน และยานยนต์ มีความกังวลในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ
ที่มา : Nikkei Asia
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส