รีวิวหนังสือ The Light We Carry: ด้วยแสงแห่งเรา ของมิเชลล์ โอบามา

เล่มนี้ถูกถ่ายทอดเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการพัฒนาตนเอง พร้อมกับนำทางชีวิตในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน มอบคำแนะนำทางปฏิบัติและกลยุทธ์ในการเอาชนะความท้าทาย มุ่งเน้นความสำคัญของการสร้างมิตรภาพ, การจัดการกับความกลัว, และการเข้ามามีส่วนร่วมในด้านต่าง ๆ ของชีวิต โดยมิเชลล์ โอบามา ได้รวบรวมบทความและคำปราศรัยต่าง ๆ ของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนสำคัญจากชีวิตส่วนตัว

สรุปภาพรวมความรู้สึกหลังอ่านจบ

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ สไตล์การเขียนของมิเชลล์ โอบามา ค่อนข้างเปิดเผยและตรงไปตรงมา และมีความเห็นอกเห็นใจกับผู้อ่านอย่างแท้จริง ทำให้เหล่านักอ่านมีความรู้สึกร่วมกับเรื่องราวส่วนตัวในชีวิตของเธอ และความท้าทายต่าง ๆ ที่เธอต้องเผชิญ ทั้งในฐานะแม่ ภริยา และสตรีผิวสี นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างยอดเยี่ยมกับผู้อ่าน ดังนั้นเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคำแนะนำในช่วงเวลาที่ท้าทายของชีวิตตนเอง

นอกจากนี้ มิเชลล์ยังให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต โดยยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของเธอเอง เช่น การให้คุณค่ากับตนเอง การสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิต และการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ คำแนะนำเหล่านี้มีน้ำหนักและทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับมิเชลล์มากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างพาร์ตที่ชอบ The Light We Carry

เราจะลดความกังวลจากชีวิตแสนวุ่นวายได้อย่างไร

เรื่องราวมากมายในชีวิตที่น่ากังวล หรือความรู้สึกอันหนักหนาที่เราแบกรับไว้ มันอาจจะมาจากการที่เราไม่สามารถแยกแยะระหว่างปัญหาที่น่าจัดการและปัญหาที่จัดการไม่ได้

และบางทีเครื่องมือชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถช่วยคุณแยกแยะความรู้สึกได้มากมายนัก ซึ่งตัวมิเชลล์ โอบามาก็ได้เรียนรู้เรื่องนี้เมื่อ 2 ปีก่อนจากการถักนิตติ้งด้วยตัวเอง โดยกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นจะช่วยให้เราสามารถอยู่กับตัวเองแบบมีสติมากขึ้น สามารถมองทุกอย่างตามความเป็นจริง มันจึงไม่แปลกเลยที่เครื่องเหล่านี้จะลดความกังวลของเราได้

ดังนั้นเราควรลดเวลาติดตามข่าวลงเสียบ้าง ลดเวลาการทำงานลงเสียบ้าง แล้วหันมาโฟกัสกับตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบ อยู่กับปัจจุบัน

เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ซื่อสัตย์และยั่งยืนได้อย่างไร

มิเชลล์นั้นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนและมิตรภาพมาก เธอทั้งจริงจังในเรื่องการคบหาเพื่อนและเรื่องการรักษาเพื่อนไว้ หากมีนัดเมื่อไหร่ เธอจะเป็นผู้นำในการวางแผนการเที่ยวเป็นกลุ่มนัดตีเทนนิสและนัดเดินเล่น 

เพราะการมีมิตรสนิทช่วยให้เธอคลายแรงกดดันต่อชีวิตคู่ ชีวิตส่วนตัวประจำวัน รวมไปถึงเรื่องงานอีกด้วย ทุก ๆ การสังสรรค์ในแต่ละครั้ง ยังทำให้เธอสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความกังวลที่แต่ละคนแบกอยู่ มันทั้งช่วยกอบกู้ ปลอบประโลมความรู้สึก และอุ้มชูให้เพื่อน ๆ และเธอรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ตลอดจนเธอยังได้ความคิดแปลกใหม่ช่วยพัฒนาให้ชีวิตมีสีสันไม่เหมือนเดิม 

และนี่แหละคือสิ่งที่เธออยากบอกกับทุกคนที่ยังลังเลสงสัยในการเชื่อมมิตรภาพ หรือบรรดาคนหนุ่มสาวอาจจะยังมีความไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากทนกับความเคอะเขินในการค้นหาและทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ จงเปิดรับและยินดีที่จะขยายความอยากรู้ของคุณ ถ้าคุณเปิดตัวเองไว้ให้พร้อม เพื่อนจะกลายเป็นระบบเชื่อมโยงสัมพันธ์ เปรียบได้กับถ้ามีดอกไม้ผุดเพิ่มขึ้นก็จะมีนกมากมายแถวนั้นมากกว่าเดิม

จะทำอย่างไรดี เมื่อรู้สึกว่าเรื่องราวในชีวิตเกินรับไหว

เมื่อต้องเผชิญกับสารพัดสิ่งร้ายกาจที่ไม่หยุดหย่อน ทำให้ปวดใจและแค้นเคืองจากโลกที่เราอยู่ มิเชลล์ โอบามานั้นเสนอคำแนะนำดี ๆ คือ “เมื่อพวกเขาทำตัวต่ำ เราจะทำตัวให้สูง” เราต้องพยายามทำตัวให้สูงต่อไป และต้องยึดมั่นในความคิดนั้นซ้ำ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก การทำตามหลักคุณธรรมย่อมสำคัญ และจะสำคัญไปตลอดกาล

การทำตัวให้สูง หมายถึงคุณต้องลงมือทำอย่างจริงจังไม่ใช่แค่ความรู้สึก ไม่ใช่แค่เรียกร้องบางอย่างตามพอใจ และเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงหรือนั่งดูเฉย ๆ เพราะอารมณ์ไม่ใช่แผนการ ไม่อาจใช้แก้ปัญหาหรือใช้เปลี่ยนเรื่องผิดให้เป็นถูกได้ คุณต้องลงมือทำอย่างรอบคอบจากการวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น

และกระบวนการเขียน เป็นเครื่องมือที่ดีเหลือเชื่อสำหรับการทำตัวให้สูง มันเป็นวิธีที่ฉันสามารถใช้พิจารณาอารมณ์ตัวเอง แล้วกลั่นกรองออกมาเป็นรูปธรรมให้เกิดประโยชน์

ในท้ายที่สุด แม้ว่าจะมีอุปสรรคใด ๆ เราต้องบอกกับตัวเองว่า อย่ายอมแพ้จงพยายามต่อไป เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราไม่อาจรู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ยามใดที่ต้องเผชิญหน้ากับความวิตกกังวล ขอแค่อย่าสิ้นหวัง เราต้องลงมือจากความหวังมิใช่ความกลัว

โดยรวมแล้ว The Light We Carry เป็นหนังสือที่น่าอ่านและให้แรงบันดาลใจมาก มิเชลล์ได้ถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมองของเธออย่างละเอียดลึกซึ้ง ทำให้ผู้อ่านรู้สึกมีพลัง และได้รับแรงผลักดันให้กำหนดทิศทางชีวิตของตนเองให้ดียิ่งขึ้น