ใน 1 วันนั้น คนเรามี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ทำไมบางคนถึงทำงานไม่ทัน ขณะที่บางคนทำเสร็จไวและยังมีเวลาไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่าง 2 กลุ่มนี้
คำตอบคือ “การบริหารเวลา” เนื่องจากคนทำงานเร็ว พวกเขามักมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์เป็นสำคัญ โดยมักจะเรียนรู้และหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายนั้น อีกทั้งพวกเขายังมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่องาน เปรียบเทียบกับคนทำงานช้าที่เสียเวลาไปกับเรื่องไม่สำคัญ และมักไม่ได้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน หรือทำได้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ
ซึ่งเล่มนี้เป็นผลงานของ “โกะโด โทคิโอะ” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งได้วิเคราะห์วิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของคนรวยที่รู้จักใช้เวลาให้คุ้มค่า ทุกการกระทำและการตัดสินใจล้วนผ่านการคิดคำนวณมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด
“เราซื้อเวลาไม่ได้ แต่บริหารเวลาให้คุ้มค่าได้”
สิ่งที่เรียนรู้ได้จากเล่มนี้ คือทำให้เราเข้าใจว่าตัวเองกำลังมีพฤติกรรมแบบไหนอยู่ เพื่อให้คุณได้ทบทวนดูว่าตัวเองกำลังมีพฤติกรรมของคนทำงานช้าหรือเปล่า และต้องปรับวิธีทำงานอย่างไรให้ทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็น 7 บทใหญ่ ประกอบด้วย
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘วิธีคว้าโอกาส’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘สมาธิ’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘มนุษยสัมพันธ์’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘วิถีชีวิต’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘นิสัยการคิด’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘วิธีการแข่งขัน’
- คนรวยที่ทำงานเร็วแตกต่างจากคนอื่นตรง ‘ความสามารถในการทำได้ตลอดรอดฝั่ง’
ตัวอย่างวิธีการทำงานที่เรียนรู้จากหนังสือ
คนทำงานเร็วคิดถึงระยะยาว ส่วนคนทำงานช้าลนลานอยู่กับเรื่องตรงหน้า
คนที่ทำงานช้าส่วนใหญ่มักลนลานกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มองไม่เห็นสิ่งรอบตัว และกระวนกระวายกับความสำเร็จของงาน ถ้าไม่มีผลงานทันทีก็ทนไม่ได้ ดังนั้นพอพวกเขาพลาดก็มักจะรู้สึกกังวลจนเกินเหตุ จึงชอบใช้วิธีลัดทำงานให้เสร็จเป็นเรื่อง ๆ ไป ทำให้เมื่อเจอปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ก็ยากจะรับมือ
ซึ่งมีความแตกต่างจากคนทำงานเร็ว เพราะพวกเขาเลือกจะมองเห็นผลลัพธ์ระยะยาว พัฒนาเรียนรู้วิธีการและหลักการก่อนเริ่มทำจริงนำมาปรับใช้ให้เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังคอยบันทึกข้อผิดพลาดและเรื่องที่ควรปรับปรุงอยู่เสมอ ทำให้เปลี่ยนความผิดพลาดเป็นบทเรียน ดังนั้นคนกลุ่มนี้ก็มักจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไปอย่างไม่ท้อถอย
คนทำงานเร็วนอนเยอะ คนทำงานช้าลดเวลานอนเพื่อทำงาน
สิ่งหนึ่งที่ CEO หรือประธานบริษัทที่ประสบความสำเร็จมีเหมือนกันส่วนใหญ่คือ พวกเขามักจะไม่ลดเวลานอน แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจหรือดำเนินโครงการที่มาถึงจุดสำคัญก็จะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำบ้าง แต่เมื่อผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เวลาเข้านอนเฉลี่ยของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ชั่วโมงต่อวัน
เนื่องจากเวลาและคุณภาพการนอนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยตรง รวมถึงการรักษาภูมิคุ้มกัน และชะลอวัย ทำให้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่ผู้คนที่ประสบความสำเร็จจะเห็นถึงความสำคัญของการนอนหลับอย่างเพียงพอ
คนทำงานเร็วขอฟังก่อน คนทำงานช้าขอพูดก่อน
คนทำงานช้าอยากจะพูดมากกว่าถาม พวกเขาให้ความสำคัญกับการพูดของตัวเองจึงไม่เก่งในเรื่องคิดคำถาม แล้วไม่สามารถดึงคำตอบที่จริงใจจากคู่สนทนาได้ ขณะที่คนทำงานเร็วตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะรู้ว่าบางครั้งการตั้งคำถามไว้ก่อนก็ช่วยให้เราทำงานได้ไวยิ่งขึ้น พร้อมกับจับประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่องาน
และอีกสิ่งสำคัญของการตั้งคำถาม คือการช่วยให้เราข่มความรู้สึกที่ว่าเราทำไม่ได้ ด้วยการถามว่าทำอย่างไรถึงจะทำได้ โดยวิธีนี้ช่วยให้สมองทำงานอย่างเต็มที่เพื่อหาทางออกและทางที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อไปสู่ความสำเร็จของงานนั้น ๆ
นอกจากตัวอย่างเทคนิคพวกนี้แล้ว ภายในเล่มยังรวบรวมไว้กว่า 55 เทคนิค เพื่อให้เรียนรู้วิธีทำงานและการบริหารเวลา ที่เหมาะแก่ผู้คนในวัยทำงานอย่างยิ่ง อ่านแล้วลองเลือกวิธีที่คิดว่าดีแล้วไปปรับใช้อย่างเหมาะสมตามสไตล์ตัวเอง
ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่ทำงานช้ามาก่อนหรือไม่ เราทุกคนล้วนพัฒนาเพื่อให้ทำงานเร็วขึ้นได้ ไม่ต้องพยายามเปรียบเทียบกับใคร แค่เพียงเก่งกว่าตัวเองในเมื่อวานจากการเรียนรู้พัฒนาความสามารถต่าง ๆ ของเรา และมีความสุขสนุกกับการทำงานให้เต็มที่ และยึดถือเป้าหมายเป็นหลักในการทำงาน กำหนดมันให้ชัดเจน แล้วสักวันเราจะพัฒนาการทำงานให้เร็วขึ้นได้อย่างแน่นอน
ชื่อหนังสือ: คนรวยทำงานเร็ว 55 กลยุทธ์บริหารเวลาของคนรวยที่ทำงานเร็ว ช่วยให้คุณใช้เวลา 24 ชั่วโมงให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเรื่องงานและชีวิต
ผู้เขียน: โกะโด โทคิโอะ (Tokio Godo)
ผู้แปล: กิษรา รัตนาภิรัต คุโด
สำนักพิมพ์: AMARIN HOW-TO
ราคา: 255