ความย้อนแย้งด้านพลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นในหมู่อเมริกันชน เมื่อคนอเมริกันส่วนใหญ่สนับสนุนให้สหรัฐฯ ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แต่มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เห็นว่าการจำกัดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ของตนเองเป็นเรื่องสำคัญมาก

ซึ่งเป็นไปตามผลสำรวจของ Pew Research ที่สอบถามผู้ใหญ่ 8,638 คนในประเทศสหรัฐฯ เกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องทางเลือกด้านพลังงานในระดับประเทศ ระดับท้องถิ่น และระดับส่วนบุคคล ซึ่งระบุว่าชาวอเมริกัน 63% ต้องการให้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ภายในปี 2050

แต่กลับกันพฤติกรรมของคนในสหรัฐอเมริกาสนใจซื้อรถไฟฟ้าลดลง ซึ่งมีเพียง 29% เมื่อเทียบกับปี 2023 ลดลงไปถึง 8% ผลการวิจัยรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้สอดคล้องกับ Mobility Consumer Pulse ของ McKinsey สำหรับปี 2024 พบว่าเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า 46% ในสหรัฐอเมริกาและ 29% ทั่วโลกวางแผนที่จะเปลี่ยนกลับมาใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเมื่อซื้อครั้งต่อไป เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้

  • 35% โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟยังไม่เพียงพอ
  • 34% ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ายังคงสูงเกินไป
  • ขณะที่ 32% รถยนต์ไฟฟ้าไม่สะดวกสำหรับการเดินทางไกล

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ในการเปลี่ยนใจกลับมาใช้รถยนต์แบบเดิม เช่น ไม่สามารถชาร์จที่บ้านได้, ความเครียดจากการกังวลเรื่องการชาร์จไฟ และบางกลุ่มบอกว่า พวกเขาไม่สนุกกับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม รายงานของ McKinsey เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่สนับสนุนพลังงานสะอาดมากกว่าไม่สนับสนุน และมีความพยายามในการทำให้ประเทศลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 อีกทั้งยังเห็นถึงประโยชน์ของการมีบ้านประหยัดพลังงาน ช่วยในการลดค่าใช้จ่ายของค่าสาธารณูปโภคของตัวเอง และเป็นผลที่ดีต่อสังคมอีกด้วย