หากติดตามการลงทุนในต่างประเทศช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมา จะพบว่า ‘เวียดนาม’ คือหนึ่งในประเทศที่เนื้อหอมที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและมีประชากรวัยทำงานในสัดส่วนที่สูง และมีความสามารถสูงอีกต่างหาก ส่งผลให้จำนวนเศรษฐีจากประเทศเวียดนามเองขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก

รายงานล่าสุดจาก Henley & Partners บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน ระบุว่าจำนวนเศรษฐีเวียดนามอยู่ที่ 19,400 คน ซึ่งเพิ่มกว่าสองเท่าตลอดช่วงปี 2013-2023 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ และผลักดันให้เวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราเติบโตด้านเศรษฐีใหม่สูงที่สุดในโลก

โดยแบ่งเป็นเศรษฐีร้อยล้าน หรือผู้ที่มีสินทรัพย์ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) จำนวน 58 คน และเศรษฐีพันล้าน หรือผู้ที่มีสินทรัพย์ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (ราว 36,000 ล้านบาท) จำนวน 6 คน

และทางรัฐบาลเวียดนามก็ตั้งเป้าหมายในปี 2030 ว่าจะต้องมีนักธุรกิจอย่างน้อย 10 คนติดอยู่ในรายชื่อมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐชั้นนำของโลก และมีนักธุรกิจ 5 คนติดอันดับกลุ่มผู้ประกอบการที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเอเชีย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองดังกล่าว มีแนวโน้มที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2024 เวียดนามจะมีผู้มีทรัพย์สินสุทธิสูงไหลออกจากประเทศ 300 ราย เนื่องจากมหาเศรษฐีของประเทศกำลังแสวงหาโอกาสในต่างประเทศ โดยต้องการโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การเข้าถึงการศึกษาและการดูแลสุขภาพระดับโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ตรงกับดัชนี The Henley Opportunity Index ซึ่งประเมินประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานผ่านเกณฑ์สำคัญ 6 ประการ ได้แก่ คุณภาพการศึกษา, ศักยภาพในการหารายได้, ความก้าวหน้าในอาชีพ, โอกาสในการจ้างงาน, ความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ, และคุณภาพชีวิตที่ดี

หากคำนวณโอกาสจากปัจจัยทั้ง 6 ด้านนี้ เวียดนามจะได้คะแนนที่ 24% เมื่อเทียบกับ 15 ประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน ซึ่งทั้งหมดได้คะแนนสูงกว่ามาก เช่น สวิตเซอร์แลนด์ให้คะแนนโอกาสโดยรวมสูงสุดที่ 85% รองลงมาคือสหรัฐอเมริกาที่ 82% และสิงคโปร์ที่ 79% เป็นต้น

ดังนั้น เรื่องราวของเศรษฐีที่อพยพออกจากประเทศได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ ในโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น ความสามารถในการข้ามพรมแดนและคว้าโอกาสต่าง ๆ ถูกนับเป็นทรัพย์สินที่มีค่า

และสำหรับเศรษฐีชาวเวียดนาม การลงทุนในการอพยพก็ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพและบรรลุเป้าหมายบนเวทีโลกเช่นกัน