สำหรับใครที่คุ้นเคยกับการแข่งขันรถ Formula One (F1) ก็ทราบดีว่าทั้ง Ferrari และ McLaren ต่างก็เป็นคู่แข่งกันมาตลอด แต่ในธุรกิจรถยนต์สำหรับขับขี่บนท้องถนนนั้นแตกต่างออกไป เพราะ Ferrari ได้เข้าสู่ธุรกิจนี้มานานแล้ว ในขณะที่ McLaren เพิ่งจะเริ่มเข้าสู่ธรุกิจนี้เมื่อปี 2011 แต่กลับเติบโตอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมาย
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2017 ที่ผ่านมา McLaren Automotive ได้ประกาศว่าสามารถทำยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2016 คือ จาก 1,654 คัน เป็น 3,286 คัน ซึ่งต้องยกความดีให้กับรถ Sport Series รุ่นใหม่อย่าง 540C, 570S และ 570GT ที่มียอดขายถึง 2,031 คัน ส่วนอีก 1,255 คัน เป็นรุ่น Super Series สุดแพง

McLaren Sport Series – 570s
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา McLaren Automotive ได้ผลิตรถยนต์ถึง 10,000 คันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยคันที่ 10,000 นั้นก็คือ McLaren Sport Series – 570S สี Ceramic Gray

Mike Flewitt ซีอีโอของ McLaren CEO ยืนคู่กับรถยนต์คันที่ 10,000 ของบริษัท
สำหรับ Ferrari นั้น ถึงแม้ว่าจะทำยอดขายได้น้อยกว่า McLaren เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ทาง Ferrari ก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขจริงๆว่าเป็นจำนวนเท่าไร อย่างไรก็ดีในช่วง 2-3 ปีมานี้ Ferrari มียอดขายทั่วโลกที่น่าประทับใจถึง 7,000 – 8,000 คัน เลยทีเดียว
และในปี 2017 ที่งาน Geneva Motor Show ทาง MacLaren ก็จะนำเอารถยนต์ Super Series รุ่นที่ 2 มาจัดแสดงแข่งกับ Ferrari 488 GTB อีกด้วย

Ferri 488 GTB
ข้อมูลอ้างอิง : businessinsider