โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จุดกระแสขยายอาณาเขตอเมริกา ด้วยข้อเสนอที่สร้างความตื่นตะลึง เช่น การรวมแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ยึดคลองปานามาคืน และซื้อกรีนแลนด์

เหตุผลเบื้องหลังการยึดคลองปานามา

ทรัมป์ประกาศในงานที่รัฐแอริโซนา ว่าคลองปานามาเป็น “สมบัติสำคัญของชาติ” และเรียกร้องให้ลดค่าธรรมเนียมการใช้คลอง มิฉะนั้นสหรัฐฯ อาจเข้ายึดคืน และกล่าวหาว่ารัฐบาลปานามาอนุญาตให้จีนมีบทบาทในการจัดการคลองปานามา ซึ่งเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ แม้คำกล่าวหานี้จะถูกปฏิเสธโดยประธานาธิบดีปานามา แต่ข้อกล่าวหานี้อาจสะท้อนความกังวลของทรัมป์เกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค

ทำไมทรัมป์ถึงสนใจประเทศกรีนแลนด์

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังเรียกกรีนแลนด์ว่า “ความจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์” พร้อมเปิดประเด็นซื้อดินแดนนี้จากเดนมาร์กอีกครั้ง แม้จะเคยถูกปฏิเสธมาก่อน

เนื่องจากความสนใจของเขาในกรีนแลนด์มีพื้นฐานมาจากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอาร์กติก ซึ่งกำลังเป็นพื้นที่แข่งขันระหว่างมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย

ผลกระทบมิตรภาพสหรัฐฯ กับแคนาดา

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังล้อเลียนนายกฯ แคนาดา จัสติน ทรูโด ด้วยแนวคิดรวมแคนาดาเข้ากับสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ ระหว่างสหรัฐฯ กับเดนมาร์กและแคนาดา อีกทั้งยังอาจทำให้พันธมิตรในยุโรปเกิดความระแวงเกี่ยวกับแนวทางการทูตเชิงรุกรานของทรัมป์

โดยรวมแล้วข้อเสนอเหล่านี้สอดคล้องกับแนวคิด “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์ และอาจถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ต่อรองทางการเมืองและการค้า โดยเฉพาะกับการกำหนดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกถึง 25%

และแม้ทรัมป์จะยังไม่ชัดเจนว่านี่เป็นนโยบายจริงหรือเพียงการยั่วยุ แต่แนวคิดของเขาทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และข้อพิพาททางการทูต ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต