Prada ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Versace ด้วยมูลค่า 1,375 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 46,000 ล้านบาท) ถือเป็นการรวมสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านแฟชั่นชั้นนำของอิตาลี มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ในระยะยาวให้กับทั้งสองแบรนด์
แม้ในช่วงที่ความต้องการสินค้าแบรนด์หรูทั่วโลกชะลอตัว แต่ Prada ยังคงมองเห็นโอกาสในการขยายตัวจากการซื้อ Versace โดยปัจจุบันยังขาดทุนอยู่ในไตรมาสที่ผ่านมา การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นหรูหราของอิตาลี ซึ่งในตอนนี้มีบริษัท LVMH จากฝรั่งเศสเป็นผู้นำตลาดแฟชั่นอันดับหนึ่งในโลก
การรวมแบรนด์ของทั้งสองบริษัทนี้ จะช่วยให้ Prada สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสไตล์บาโรกที่โดดเด่นของ Versace ซึ่งจะทำให้เกิดการดึงดูดลูกค้าต่างกลุ่มจากที่ Prada เน้นสไตล์มินิมอลเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อขยายรายได้ในระยะยาวมากกว่าการประหยัดต้นทุน
แพตริซิโอ เบอร์เทลลี (Patrizio Bertelli) ประธานบริษัท Prada เปิดเผยถึงความตั้งใจของบริษัทในการสืบทอดมรดกของ Versace โดยการเฉลิมฉลองและตีความใหม่ในสุนทรียศาสตร์ที่กล้าหาญและไร้กาลเวลาของแบรนด์ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า Prada จะมอบแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งให้กับ Versace ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องหลายปีและความสัมพันธ์ที่ยาวนาน
ที่น่าสนใจคือ จำนวนเงินที่ Prada ตกลงจ่ายสำหรับการซื้อ Versace นั้นต่ำกว่ามูลค่าที่ Capri Holdings เคยจ่ายซื้อแบรนด์นี้ในปี 2018 อย่างมีนัยสำคัญ โดย Capri ซึ่งเดิมรู้จักในชื่อ Michael Kors ได้ซื้อ Versace จากครอบครัว Versace และ Blackstone ในราคาประมาณ 2,150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมทั้งหนี้สิน) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 2025 ถึงแม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีในสหรัฐฯ และความผันผวนของตลาดก็ตาม