เรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์ของ ตำรวจทางหลวงยูทาห์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่เพิ่งผ่านมานี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลาดตระเวนอยู่บนถนนทางหลวงระหว่างรัฐที่ 15 เมืองออกเดน รัฐยูทาห์ สังเกตเห็นรถSUVคันหนึ่งขับด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. ในเขตที่จำกัดความเร็วขั้นต่ำที่ 110 กม./ชม. แล้วขับข้ามเลนโดยไม่ให้สัญญาณไฟเลี้ยวด้วย ตำรวจทางหลวง ริก มอร์แกน ที่เห็นเหตุการณ์ ก็คาดคะเนว่าคนขับอาจจะไม่สบายหรือเจ็บป่วยในภาวะฉุกเฉิน จึงเปิดไซเรนรถตำรวจ แล้วก็เข้าประชิดขอให้รถคันดังกล่าวจอดเข้าข้างทาง

“ตรงนั้นมันเป็นช่วงทางโค้ง แต่เค้าดูเหมือนว่าจะขับเข้าโค้งด้วยความยากลำบากอยู่นะ”
ร้อยโทนิกบอกกับนักข่าว

แล้วเมื่อ ริก มอร์แกน ตำรวจทางหลวงเดินเข้าไปที่รถคันดังกล่าว เขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น มันไม่ใช่อย่างที่เขาคาด เพราะที่นั่งอยู่เบาะคนขับ คือเด็กชายที่กำลังพยายามจะจอดรถ ด้วยการใช้เท้าทั้งสองข้างเหยียบไปบนแป้นเบรก ก่อนที่จะสอบถามความเป็นมาของเหตุการณ์ประหลาดนี้ ริกต้องช่วยเจ้าหนูจอดรถเสียก่อน แล้วค่อยสืบสาวเรื่องราวจากหนูน้อย

เจ้าหนูบอกว่าเขาเขาชื่อ เอเดรียน ซามาร์ริพา อายุ 5 ขวบ เขาขับรถคันนี้ของแม่ออกจากบ้านเพื่อจะมุ่งหน้าไปบ้านพี่สาวที่แคลิฟอร์เนีย เพราะจะไปพี่สาวพาไปซื้อรถลัมบอร์กินี ซึ่งเป็นรถในฝันของเขา หลังจากที่แม่บอกว่าจะไม่ซื้อรถลัมบอร์กินีให้เขา พอถามว่าหนูมีตังค์ไปซื้อรถเหรอ เจ้าหนูเอเดรียนก็ควักเหรียญออกมาให้ดู ว่าเขาเก็บเงินมาได้แล้ว 3 ดอลลาร์

 

Play video

คลิปตอนที่ตำรวจหยุดรถ SUV 

ริกก็ต้องทำหน้าที่ตำรวจแม้จะเป็นการดับฝันเด็กน้อย แต่ความปลอดภัยต้องมาก่อน เขาเอาตัวเอเดรียนไปส่งบ้าน แล้วก็พบว่าพ่อและแม่ของเอเดรียนอยู่ที่ทำงาน ส่วนเอเดรียนอยู่กับพี่สาวที่พ่อแม่มอบหมายให้ดูแลน้อง แต่เจ้าหนูก็อาศัยช่วงที่พี่หลับ คว้ากุญแจรถแม่แล้วขับออกมาเสียเลย

ซิดนีย์ เอสทราดา พี่สาวของเอเดรียนเล่าว่า เอเดรียนใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากได้ ลัมบอร์กินีสีแดง เขาใช้เวลาทั้งวันเปิดยูทูบนั่งดูคลิปรถลัมบอร์กินีวิ่งไปมา

พอซิดนีย์ตื่นมาในช่วงเที่่ยงวันก็ตกใจที่รถหายไป น้องก็หายไป เธอเลยโทรไปบอกพ่อ

โจเอล ซามาร์ริพา ผู้เป็นพ่อก็ต้องกระหืดกระหอบกลับมาบ้าน เขาไม่คิดว่าเอเดรียนวัย 5 ขวบ จะเป็นคนขับรถออกไปหรอก ระหว่างที่ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเขา ก็พอดีที่ตำรวจโทรมาแจ้งว่าพบตัวเอเดรียนแล้ว ขณะขับรถไปบนทางหลวงระหว่างรัฐ เขาก็ยิ่งสับสนงงงวยมากขึ้นไปอีก

ริก มอร์แกน บอกว่าโชคดีมาก ที่ยังขับออกไปได้ไม่ไกลนัก ดีที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ ทางสถานีตำรวจก็ประสานไปยังหน่วยอัยการเขตสอบถามว่า จะให้ดำเนินข้อหาอะไรกับผู้ปกครองเด็กหรือไม่ในกรณีนี้ ก็โชคดีที่อัยการเขตไม่เอาเรื่อง เพราะยังไม่ได้ก่อความเสียหายอะไร แต่ขอกำชับให้มีการดูแลเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ซิดนีย์ เอสทราดา พี่สาวของเอเดรียน บอกว่าเธอเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ เธอและครอบครัวจะดูแลน้องชายด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

หลังจากเรื่องราวของ เอเดรียน ซามาร์ริพา เป็นข่าวดังไปทั่วโลโซเชียลภายในระยะเวลาเพียงแค่วันเดียว เจเรมี เนเวส หนุ่มรายหนึ่งเป็นเจ้าของรถลัมบอร์กินี ก็ได้เห็นข่าวของเอเดรียนที่เพื่อนของเขาส่งมาให้อ่าน เขารู้สึกประทับใจกับความกล้าหาญของเอเดรียน ก็เลยขับ Lamborghini Huracan ของเขาไปรับเอเดรียนและแม่ พานั่งรถเล่นอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนตอบสนองความฝันเล็ก ๆ ของเอเดรียนให้เป็นจริง

เจเรมี เนเวส สวมกอดกับหนูน้อย เอเดรียน ซามาร์ริพา

เจเรมี เนเวส สวมกอดกับหนูน้อย เอเดรียน ซามาร์ริพา

“เขามีความกล้ามากที่จะทำตามความฝันของเขา”
เจเรมี เนเวส ให้ความเห็นต่อการกระทำของเอเดรียน

เจเรมีบอกว่ามุมมองของเขาค่อนข้างต่างจากกระแสสังคมส่วนใหญ่ ที่มองการกระทำของเอเดรียนในแง่ลบ พอเขาได้เจอเอเดรียนก็โอบกอดหนูน้อยด้วยความเอ็นดู ส่วนเอเดรียนก็เขินอาย แต่ก็เดินมองรอบรถด้วยรอยยิ้ม

เดินลูบรอบรถในฝัน

เดินลูบรอบรถในฝัน

“ผมว่าเขาได้รับการอบรมสั่งสอนไปพอสมควรแล้วล่ะ เขาอาจจะโดนกักบริเวณ แต่ขณะเดียวกันผมก็อยากจะบอกกับเขาว่า ‘ฝันของเธอมันไม่ได้ไกลอย่างที่เธอคิดหรอก’

เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เอเดรียนมีความสุขขณะที่นั่งรถไปกับแม่ โดยที่เจเรมี เป็นคนขับพาซิ่ง เขายิ้มทั้งน้ำตาขณะที่อยู่บนรถลัมบอร์กินี
“เขาพูดอยู่เสมอว่าเขาอยากได้รถลัมบอร์กินี แล้วตอนนี้เขาก็มีโอกาสได้นั่งแล้ว ฉันเองก็รู้สึกดีใจ หลังจากที่พวกเราทั้งครอบครัวต่อว่าเขา แล้วตอนนี้เขาก็เหมือนได้พบฝันที่เป็นจริงแล้ว”
ซิดนีย์ เอสทราดา กล่าวความรู้สึกที่มีต่อน้องชาย

ได้นั่งรถในฝันแล้ว ดีใจจัง

ได้นั่งรถในฝันแล้ว ดีใจจัง

 

ได้นั่งรถในฝันแล้ว ดีใจจัง

ได้นั่งรถในฝันแล้ว ดีใจจัง

อ้างอิง
อ้างอิง